กินไหม.....

ปลาหมึกย่างหน้าซอยตรอกศิลป์ปากซอยตรอกศิลป์ แถวเสาชิงช้า เปิดขายตั้งแต่ 18.00 – 24.00 น.
ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้หมึกย่างควรบึ่งรถไปด่วน!! แค่เห็นปลาหมึกสดตัวใหญ่ขาวอวบส่งกลิ่นหอมฟุ้งอยู่บนเตาย่างก็ชวนให้น้ำลายสอ นี่ยังไม่รวมน้ำจิ้มรสเด็ดเปรี้ยวเผ็ดสะใจหอมฟุ้งกลิ่นกระเทียมและมะนาวช่วยกลบกลิ่นคาวของปลาหมึกได้ราบคาบ แต่ถ้าใครไม่ชอบรสจัดเขาก็มีน้ำจิ้มหวานรสชาติเด็กๆ ไว้ให้เป็นตัวเลือก ปลาหมึกย่างราคาอยู่ที่ตัวละ 50-80 บาท หนวดปลาหมึกย่าง 20-60 บาทไข่ปลาหมึกย่าง 20 บาท ขอเตือนว่าช้าหมดอดชิมแน่นอนเพราะลูกค้าเยอะมากๆ

หมูยอจำปาทองสามแยกพิชัย
เมนูเด็ดร้านนี้ ต้องนี่เลย หมูยอจำปาทอง ด้วยส่วนผสมชั้นดี ตีให้เข้ากันจนเหนียวเด้ง เมื่อเคี้ยวลงไปได้กลิ่นเครื่องเทศหอมติดจมูก นอกจากนี้ยังมี ข้าวเกรียบปากหม้อญวน แป้งเหนียวอัดแน่นด้วยไส้หมูสับ กินกับผักแกล้ม อร่อยสุดๆ อีกอย่างที่พลาดไม่ได้คือ ยำแหนมสดรสชาติจัดจ้านแกล้มใบชะพลูกลมกล่อม ส่วนใครที่กลัวไม่อิ่มท้องที่นี่มี ขาหมูสูตรฮ่องกง ไม่ใส่เครื่องเทศกลิ่นฉุน แต่ใส่อ้อยตุ๋นรวมกับขาหมู เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึง
ด้วยทำเลที่อยู่ในละแวกรัฐสภา ร้านหมูยอจำปาทองจึงเป็นขวัญใจท่าน ส.ว.และ ส.ส. หลายท่านถึงขนาดไปจัดเลี้ยงในวันประชุมสภาด้วยเมนู ก๋วยเตี๋ยวหมูยอ น้ำซุปหอมอร่อย ราคาเริ่มต้นที่ 30บาท ส่วนแพงที่สุดก็แค่ 80 บาทเท่านั้น มีบริการจัดส่งคิดค่าบริการตามระยะทางอีกด้วย

ร้านขนมครก (เข้าวัง)ร้านเป็นรถเข็นตั้งอยู่หน้าร้านอาหารสวัสดี เยื้องตลาดราชวัตร โทร.02-241-3840 ขายเฉพาะช่วงเย็น ประมาณ 17.00 – 23.00 น. แต่ควรหลีกเลี่ยงช่วงสองทุ่ม เพราะคิวยาวเหยียด หยุดทุกวันจันทร์
หลังจากเต็มอิ่มกับมื้อเย็นแสนอร่อยแล้ว ลองแวะมาหาของหวานแถวราชวัตรตบท้ายกันดีกว่า ที่นี่มีขนมครกสูตรพิเศษ หอมกลิ่นกระทิ กรอบนอกนุ่มใน ไม่หวานเลี่ยน ด้วยแป้งและกะทิสูตรเฉพาะที่เจ้าของคิดค้นเอง ขนาดเล็กพอดีคำทำให้กินเพลิน การันตีฝีมือจากการได้รับเชิญเข้าวังในงานพระราชพิธีต่างๆ

ขนมจีนตั้งฮั่วเส็งตรอกกลางห้างตั้งฮั่วเส็ง บางลำพู ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 19.00 น.
แค่เดินผ่านก็ต้องหยุดชะงัก เพราะกลิ่นหอมฉุยยั่วน้ำลายของ ขนมจีน ที่มีทั้ง น้ำยาปลาช่อน รสชาติเข้มข้น และ น้ำเงี้ยว ที่ประยุกต์จากทางเหนือให้รสชาติถูกปากชาวกทม. มากยิ่งขึ้น ยิ่งกินแกล้มกับ ไข่ต้มยางมะตูม และผักสดกรอบนานาชนิด แจมด้วยรสเปรี้ยวของผักดองยิ่งเพิ่มรสชาติให้น่าลิ้มลองยิ่งขึ้น ขายแค่จานละ15 บาท เติมผักได้ไม่อั้น คุ้มสุดคุ้มจริงๆ

ราดหน้า ชิ้งกี่ (เรือนจำเก่า)ถนนมหาชัย ใกล้สวนรมมณีนาถ (เรือนจำเก่า) โทร.0-2222-2473 เปิดตั้งแต่17.00 น.
ราดหน้าสูตรเด็ดของร้านนี้ต้องยกให้ ราดหน้าสี่สี ประกอบด้วย เส้นผัดไข่ ใส่ไข่ดาว ใส่หมูแฮม หมูแฮมของทางร้านอาจมีหน้าตาไม่เหมือนที่อื่น เพราะเป็นหมูทอดกระเทียมที่คิดสูตรขึ้นเอง ส่วนเส้นก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะเส้นหมี่ทางร้านมีสูตรเด็ดคือ กรอบ หอม แล้วราดด้วยน้ำราดหน้าสูตรเฉพาะที่มีทั้งหมูเนื้อนุ่ม และผักคะน้าเนื้อนิ่มรวมอยู่ด้วยกัน เติมความพิเศษด้วยไข่เป็ดนำไปดาวจนสุกกำลังดี เมื่อรับประทานไข่แดงเนื้อนวลจะไหลมาคลุกเคล้ากับเส้นก๋วยเตี๋ยว เพิ่มรสชาติลูกค้าดังๆ ของทางร้านได้แก่ สมชาย เข็มกลัด, ศรราม เทพพิทักษ์, โจอี้บอยอยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหนต้องแวะไปลอง

หมูสะเต๊ะและตับสะเต๊ะชองกี่ซอยสุกร (ตรอกโรงหมูเก่า) ตรงข้ามวัดไตรมิตร เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เช้า จนกว่าของจะหมด ยกเว้นวันจันทร์ ปิด 14.00 น.
หนึ่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่มีทั้ง หมูสะเต๊ะ และ ตับสะเต๊ะ สูตรต้นตำรับอายุกว่า 62 ปี หมูที่นี่เนื้อนุ่ม เพราะหมักด้วยน้ำผลไม้สูตรพิเศษ ทาด้วยกะทิสดกลิ่นหอม จิ้มกับน้ำจิ้มสีแดงเจ้าของร้านบอกว่าร้านชองกี่ไม่เน้นน้ำจิ้มรสหวานเลี่ยน แต่เน้นสีสันและกลิ่นหอมของเครื่องแกงได้รส ถูกปากคนไทยแต่ไม่เผ็ด ส่วนที่ขาดไม่ได้ของร้านนี้ต้องเป็น ตับสะเต๊ะ ที่ปัจจุบันหารับประทานยากทางร้านจะหมักตับให้มีรสเข้มกว่าหมูเล็กน้อย นำไปย่างให้สุกกำลังดี ตับที่ได้จึงไม่แข็ง และมีรสหวาน เมื่อนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ด รสชาติจึงกลมกล่อม ที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาวของตับมากวนใจเลย ใครเคยไม่ชอบทานตับ เมื่อมาลองแล้วอาจเปลี่ยนใจ
ตึ๊งข้าวต้มหัวปลาร้านอยู่ตลาดพลู เลยวัดกลางไปนิดเดียว เปิดทุกวัน 16.00 – 24.30 น. โทร.02-466-0948
จุดเด่นของ ข้าวต้มหัวปลา ที่นี่อยู่ที่กลิ่นของข้าวต้มที่ไม่เหมือนใคร พอปรุงรสแล้วจะอร่อยกว่าข้าวต้ม ทั่วไป เนื้อปลาชิ้นใหญ่ขาวสดสั่งตรงจากสะพานปลา แถมไร้กลิ่นคาว หัวปลาก็มันได้ที่ ยิ่งกินคู่กับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวชั้นดี ยิ่งเพิ่มความหอมหวานมันเค็มมากยิ่งขึ้น ส่วนเมนูพิเศษอีกอย่างคือ ข้าวต้มบะเต็งเป็นข้าวต้มหมูหั่นแบบลูกเต๋าทอดซีอิ๊วรสชาติเค็มๆ หวานๆ ราคาอยู่ที่ 30-35 บาท
ข้าวห่อใบบัว ลุงชูถนนพระราม 4 ฝั่งตรงข้ามศูนย์ BMW เปิดบริการตั้งแต่เที่ยววันถึงตีหนึ่ง หยุดทุกวันอาทิตย์ โทร.
ข้าวห่อใบบัวรสชาติคล้ายบะจ่าง ต่างกันที่ใช้ข้าวสวยเป็นส่วนประกอบสำคัญ ใส่ หมูหมัก เห็ดหอม กุ้งแห้ง นำไปผัดจนหอม โปะหน้าด้วย ไข่แดงเค็ม แล้วโรยด้วย เม็ดบัว อีกที จากนั้นห่อด้วยใบบัวแล้วนำไปนึ่ง ให้กลิ่นใบบัวแทรกลงไปในข้าว เวลาเสิร์ฟกลิ่นจะหอมกรุ่นแตะจมูก แต่ที่ทำให้ลูกค้าร้านลุงชู ติดใจต้องนี่เลย น้ำจิ้มแบบซีฟู๊ด เพิ่มรสชาติให้จัดจ้านถูกลิ้นคนไทยมากยิ่งขึ้น ราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิดห่อละ 30 บาทเท่านั้น

เผื่อใครผ่านแถวไหนก็ขอเชิญ ร้านบ้านๆแต่รสชาติใช้ได้