9 สิงหาคม 2552

เมื่อแฟนผมให้ไปออกเดทกับผู้หญิงอื่น



Subject: FW: " เมื่อแฟนผมให้ไปออกเดทกับหญิงอื่น" (อ่านน่ะ...ให้จบด้วย... ดีมากจริงจริง)
อ่านน่ะ...กรุณาอ่านให้จบด้วย... ดีมากจริงจริง
'เมื่อแฟนผมให้ไปออกเดทกับหญิงอื่น' หลังจากที่แต่งงานมาได้ 21 ปีผมก็ค้นพบวิธีใหม่ในการทำให้ความรักสดใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอเพราะ...
วันหนึ่งภรรยาผมบอกว่า ผมต้องออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่งมันเป็นไอเดียของเธอล้วน ๆ จริง ๆ นะ
' ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ' ภรรยาผมพูด'แต่ผมรักคุณนี่' ผมเถียง'ฉันรู้ค่ะ
แต่คุณก็รักเธอคนนี้ด้วยเหมือนกัน'ผู้หญิงคนนั้นที่ภรรยาอยากให้ผมไปหา คือ 'แม่' ของผมเอง
ซึ่งเธอเป็นหม้ายและใช้ชีวิตเพียงลำพังกับสัตว์เลี้ยงมา 19 ปีแล้ว
เนื่องจากงานที่รัดตัว ทั้งเจ้านายและลูกค้าที่ผมจะต้องรับผิดชอบและยังมีภรรยาและลูก ๆ ที่ต้องดูแลทำให้ผมไปเยี่ยมแม่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น
ผมตอบตกลงกับภรรยา และขอบคุณที่เธอให้โอกาสเช่นนั้นวันที่ผมโทรไปหาแม่
เพื่อชวนท่านออกไปทานข้าวเย็นและดูหนังแม่ถามผมว่า 'มีอะไรหรือ? ลูกสบายดีรึเปล่า?'
แม่คิดว่าการที่ผมโทรมาหาอย่างกระทันหันหมายความว่า มีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น
ผมตอบแม่ว่า 'ไม่ มีอะไรคับ ก็อยากคุยกับแม่ และคงจะดีมาก ถ้าเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ตามลำพังสองคนแม่ลูกบ้าง ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ดูหนังด้วยกันสักเรื่อง'แม่นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า 'ได้สิจ๊ะ แม่ยินดีมากเลยจ้ะ' + 'แล้วลูกมีเวลาว่างแล้วเหรอจ๊ะ หยุดงานได้เหรอ'...
เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ผมขับรถไปรับแม่ที่บ้าน ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อผมไปถึงบ้านแม่ ผมก็สังเกตได้ว่าแม่เองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน
แม่สวมเสื้อโค้ทนั่งรอผมอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้วแม่ม้วนผมแล้วสวมชุดที่แม่ใส่ในวันฉลองครบรอบการแต่งงานครั้งสุดท้ายพลางยิ้มรับผมด้วยใบหน้าที่แจ่มใสราวกับทูตสวรรค์แม่บอกเพื่อน ๆ ว่า 'จะออกไปเที่ยวกับลูกชาย' แม่พูดขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ เพื่อน ๆ ของแม่ต่างพากันประทับใจยกใหญ่เราไปภัตตาคารที่ถึงแม้จะไม่หรูหรา แต่ก็ดีเยี่ยม บรรยากาศก็อบอุ่นสบาย ๆ มาก ๆ ผมวางแผนว่าต้องเป็นร้านในสไตล์ที่แม่ต้องชอบแม่ควงแขนผมเดินราวกับว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งหลังจากที่เรานั่งเรียบร้อยแล้ว
ผมต้องเป็นฝ่ายอ่านเมนูอาหาร เพราะแม่บอกว่า 'ตอนนี้สายตาของแม่อ่านได้เพียงตัวหนังสือตัวใหญ่ ๆ เท่านั้น'
เมื่อผมอ่านเมนูอาหารไปได้เพียงครึ่งหนึ่งจึงหยุดเว้นจังหวะ เพื่อให้แม่ได้เลือกรายการอาหารผมเงยหน้าขึ้น มองเห็นแม่กำลังจ้องมองดูผมอยู่ด้วยรอยยิ้มระลึกถึงความหลังแม่พูดเปรยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า 'ตอนที่ลูกยังเด็ก แม่ต้องเป็นคนอ่าน เมนูให้ลูกฟังหลายรอบ' ผมบอกแม่ว่า 'งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะผลัดเวรให้แม่นั่งฟังสบาย ๆ บ้างแล้ว'
ในระหว่างมื้ออาหารนั้นเราคุยกันอย่างถูกคอ - ไม่ใช่เรื่องราวพิเศษอะไร -เพียงแต่สลับกันถามว่าชีวิตของเราเราคุยกันสนุกมากจนไปดูหนังไม่ทัน...
เมื่อผมไปส่งแม่ที่บ้าน แม่พูดว่ 'แล้วแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกอีกนะ' -'แต่คราวนี้ลูกต้องยอมให้แม่เป็นเจ้าภาพนะจ๊ะ'
'แน่นอนครับ' ผมตอบตกลง'ดินเน่อร์เป็นยังไงบ้าง?' ภรรยาถาม เมื่อผมกลับถึงบ้าน'วิเศษมาก ๆ ดีเยี่ยมกว่าที่ผมคิดไว้มากเลย'
ผมตอบอีกไม่กี่วันต่อมา แม่ผมเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันมันเกิดขึ้นกระทันหันมากจนผมช่วยอะไรไม่ทันเลยหลายวันต่อมา
ผมได้รับจดหมายพร้อมใบเสร็จจากภัตตาคารที่ผมกับแม่เคยไปมีโน๊ตเล็กๆแนบมาด้วยว่า...'แม่จ่ายค่าอาหารชุดนี้เรียบร้อยแล้ว แม่รู้อยู่แล้วว่าแม่คงไปอีกครั้งไม่ได้ -แต่... แม่ก็จ่ายสำหรับสองคน คือ สำหรับลูกกับภรรยา - ลูกคงเดาไม่ถูกหรอกว่าวันนั้นมีความหมายต่อแม่มากแค่ไหน, รักลูกมากจ๊ะ'ณ วินาทีนั้น ผมได้เข้าใจถึงความสำคัญของการกล่าวคำว่า ''รัก'ต่อคนที่เรารัก ในช่วงเวลาที่เค้าต้องการมันไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าครอบครัวของคุณจงให้เวลากับพวกเค้าในเวลาที่พวกเค้าต้องการคุณเพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจผลัดวันประกันพรุ่งได้-
มีบางคนบอกว่า หลังจากที่คลอดลูกแล้วต้องใช้เวลาพักฟื้นราว 6 สัปดาห์ แม่จึงจะคืนสภาพเดิม
คนนั้นไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณได้เป็นแม่คนแล้ว ไม่มีคำว่าคนเดิมอีกต่อไป-
บางคนบอกว่า คนเราเรียนรู้การเป็นแม่ได้เองตามสัญชาติญาณ......................คนนั้นไม่เคยพาลูกสามขวบไปซูเปอร์มาร์เกต-
บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นน่าเบื่อ..............................................คนนั้นไม่เคยนั่งรถที่ลูกวัยรุ่นขับ หลังจากที่ได้ใบขับขี่มาหมาด ๆ-
บางคนบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี ลูกออกมาก็จะดีเอง...................................คนนั้นนึกว่าเด็กคลอดออกมาพร้อมกับคู่มือการใช้และใบรับประกัน-
บางคนบอกว่า แม่ที่ดีไม่ควรขึ้นเสียงกับลูก..........คนนั้นไม่เคยเปิดประตูหลังบ้านออกมา ทันได้เห็นลูกหวดลูกบอลเข้าใส่หน้าต่างครัวของเพื่อนบ้านพอดิบพอดี-
บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นไม่ต้องมีการศึกษาก็ได้..............................คนนั้นไม่เคยช่วยลูกที่กำลังเรียน ป.4 ทำการบ้านเลข-
บางคนบอกว่า แม่รักลูกคนที่ห้าไม่เท่าลูกคนแรก.....................................คนนั้นไม่เคยมีลูกห้าคน-
บางคนบอกว่า ช่วงที่ยากที่สุดของการเป็นแม่ คือตอนคลอดและตอนเลี้ยง
คนนั้นไม่เคยยืนดูลูกขึ้นรถเมลไปโรงเรียนอนุบาลวันแรกไม่เคยส่งลูกเข้าห้องหอในคืนแต่งงาน-
บางคนบอกว่า งานของแม่นั้นหมู ๆ ปิดตาสองข้าง หรือมัดมือไว้ข้างหนึ่งก็ยังไหว
คนนั้นไม่เคยสอนการออกเดินขายขนมให้กับเหล่ายุวนารีที่กระจุ๊กกระจิ๊กคิกคักกันอยู่ตลอดเวลา-
บางคนบอกว่า แม่เลิกกังวลได้แล้ว หลังจากที่ลูกแต่งงานออกเรือนไปคนนั้นไม่รู้ว่าการแต่งงานคือการนำลูกชายหรือลูกสาวคนใหม่เข้ามาอยู่ในสายใยใจของแม่-บางคนบอกว่างานของแม่ สิ้นสุดลงเมื่อลูกคนสุดท้ายออกจากบ้านไปคนนั้นไม่เคยมีหลานยาย หรือหลานย่า-
บางคนบอกว่า แม่รู้ดีอยู่แล้วว่าคุณรักท่าน เพราะงั้น ไม่ต้องบอกท่านก็ได้ คนนั้นไม่เคยเป็นแม่คน
.....................................................................................................................................
ขอขอบคุณภาพจากwww .teenee.com/etc/img3/m89715.gif

8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่มีอะไรที่จะทำให้เรารู้สึกดีได้มากเท่ากับเวลาที่เราคิดถึงหน้าแม่ คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่ทำให้เรามาตลอดด้วยความรักความเสียสละ ถึงแม้วันนี้จะยังไม่ใช่วันที่ 12 ส.ค. แต่เรา,ลูกเรา,พี่น้องและหลาน ๆ เราก็ได้มารวมตัวกันนำพวงมาลัยมาให้แม่และกอดแม่ เสร็จแล้วก็ไปทานข้าวเที่ยงกัน เพิ่งจะแยกย้ายกันกลับบ้าน เป็นวันแห่งความสุขของเราอีกวันหนึ่ง ใครแวะไปหาแม่กอดแม่แล้วบ้างเอ่ย

    ตอบลบ
  2. พัท จรัญ9/8/52 19:46

    อ้างอิงถึงบล็อคที่ปู่เขียน ฝากเพลงให้เพื่อน
    ได้ทราบว่าแม่ของมะลิ สะโพกหัก ตอนนี้ต้องดูแลแม่ และแม่ของวรรณีก็ไม่สบาย ก็ขอให้คุณแม่ของเพื่อนและเพื่อนๆที่เป็นแม่ทั้งหลาย ให้มีสุขภาพที่แข็งแรง กันทุกคนนะ (เหมือนกันเลยพึ่งไปกินข้าวกะแม่กลับมา)

    ด้วยความปราถนาดีจาก
    papa deedee

    ตอบลบ
  3. เค้าถึงว่า ให้รักและดูแลกันตอนเป็นๆ ดีกว่ามากราบไหว้รูปภาพตอนที่จากกันไปแล้ว

    เราเคยเอาพวงมาลัยไปไหว้พระที่บ้าน-พ่อกับแม่น่ะ
    แม่จะกอดด้วยอ้อมแขนพร้อมรอยยิ้ม และคำอวยพรมากมาย
    ขนาดว่าเรากับพ่อแม่เจอกัน กินข้าวด้วยกันเป็นประจำนะ
    แต่ตอนที่กอดกันเนี่ย ..ไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำตามันมาจากไหน
    อาจจะเพราะอ้อมกอดของแม่บ่งบอกเสมอว่า ..นี่แหละคือคนที่รักเรามากที่สุด :D

    ตอบลบ
  4. เมียบางคนเป็นยิ่งกว่าแม่
    กอดเมียแทนแม่ได้ไหมหว่า

    ปุจฉา...จะมีใครตอบไหมน้า

    ปล, ตอนนี้เจ้ wn เค้า(ย้ำเรียกว่าเค้าตามที่ ซ้งโภชนา)คุมตั้งแต่รุ่นที่ 12-22แล้วเหรอ

    ตอบลบ
  5. ฮ่า ฮ่า ฮ่า สงสัยต้องไปลากคุณผู้ชายในรุ่นมาตอบให้หมดเลยสำหรับปุจฉาข้อนี้

    เค้าป่าวคุมเป็นสิบรุ่นซะกะหน่อย แค่รู้จักรุ่น 22 เพราะเป็นเพื่อนน้องชายแล้วก็อยู่บางโอเคด้วยกันเท่านั้นเอง ..รุ่น 14 ยังไม่กล้าคุม จะเที่ยวไปคุมรุ่นอื่นได้งัยกัน :P

    ตอบลบ
  6. หลอเค้ามีมนุษย์สัมพันธ์ดี ใคร ๆ ก็อยากคุย อยากรู้จัก
    แถมยังเป็นนักเขียนบางโอเค ที่ติดอันดับคนอ่านเยอะซะอีกนะจ้ะ
    พูดเพราะมั้ย เด๋ววุฒิ สายสอง ดุเอา 555555

    ตอบลบ
  7. ถึงวันแม่ทีไร เราจะได้อ่านข้อความดี ๆ
    ทั้งทาง mail หนังสือ หรืออื่น ๆ
    ได้รับรู้สิ่งดี ๆ ทางจอทีวีด้วย
    แล้วก้อได้แต่นั่งเหงา ๆ เราไม่มีโอกาสดี ๆ เหมือนเพื่อน ๆ นะ

    ขอแสดงความยินดีกับเพื่อน ๆ ที่มีโอกาสดี ๆ กันนะจ๊ะ
    (ทั้งที่เป็นคุณลูก ได้กราบแม่เพื่อขอพร
    และที่เป็นคุณแม่ ที่ลูกมากราบขอพรนะ)

    แง๊ แง๊ แง๊ เคร้าอ่ะ

    ตอบลบ
  8. แฮะแฮะ ...แล้วป้าๆๆรุ่น14 ทำตัวเป็นแม่ หรือเมียกันละ

    ปุจฉา....จะมีใครตอบไหมน้า

    แล้ว wn จะไปลากคุณผู้หญิงในรุ๋นมาตอบไหมจ๊ะ...
    เรื่องนักเขียนบางโอเค แกกำลังวุ่นกับงานบุญอยู่

    เดี๋ยววุฒิ สายสองให้ลูกชื่อน้องเฟรม..ช่วยเอาไปเลี้ยงไม่ดื้อแต่ถามตอบเยอะ......papa จัดให้

    ตอบลบ