16 พฤษภาคม 2553

เยือนถิ่นซากุระตอนที่ 2


กรุงเทพฯ ร้อนเหลือเกิน มาคลายร้อนกันดีกว่านะ

ที่เกียวโตเป็นเมืองเก่าที่เราว่าค่อนข้างเงียบนะ แต่ที่สถานีรถไฟเกียวโตไม่เงียบเลย คนเยอะมาก ยิ่งถ้าเป็นช่วงเช้า หรือช่วงเย็นนะ จะเห็นเป็นกองทัพมดอยู่ในสถานีเลย ใครที่ไปฮ่องกงก็คงพอหลับตานึกได้เหมือนกัน ช่วง rush hour คนเบียดเสียดกันไปที่รถไฟใต้ดิน เหมือนกันแบบนั้นเลย แต่คนญี่ปุ่นมีระเบียบกว่านั้นมาก เขาจะมีจุดให้เข้าแถวขึ้นรถ มีตู้รถเฉพาะผู้หญิงด้วยนะ ดีมาก ใต้ดินของสถานีมีร้านค้าเยอะแยะ ขายเสื้อผ้าแบบที่เราซื้อใส่ไม่ค่อยได้ มีร้านอาหารเพียบ เรามาหม่ำที่นี่ด้วย

รถเมล์บ้านเขาก็แจ่ม สะอาด เป็นระเบียบ ที่นั่งเขามีส่วนที่เป็นแบบพับได้สำหรับให้รถเข็นเข้ามาแทนที่ได้เลย ที่นั่งพวกนี้จะมีป้ายแปะไว้ด้านข้างว่าสำหรับ รถเข็น คนท้อง คนเป็นโรคหัวใจ อะไรแบบนี้ ป้ายยังบอกวิธีพับเก้าอี้ด้วยนะ ระบบขนส่งเขาดีและตรงเวลาจริงๆ


วันรุ่งขึ้นเราก็ซื้อ 1 day card เพื่อขึ้นรถไปวัดทอง Kinkaku-ji Temple (The Golden Pavilion) ค่าเข้าชมวัด 300 เยนต่อคน วัดนี้มีเจดีย์ทองอันเลื่องชื่อ ใครที่ดูการ์ตูนอิคคิวซัง คงจำวัดอังคะคุจิได้ใช่ไหม วัดนี้ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกปี 1994 คนมาที่นี่เยอะมาก (จริงๆก็เยอะทุกที่ที่ไปนั่นแหละ) ที่วัดนี้จะมีขายเครื่องรางเยอะมาก มีหลายแบบให้เลือก สนนราคาขั้นต่ำที่เห็นคือ 350 เยนขึ้นไป ลืมบอกไปว่าวัดแต่ละแห่ง จะมีโรงเรียนพาเด็กมาทัศนศึกษาหลายกรุ๊ปเลย ที่นี่ก็มี เด็กๆพากันมุงซื้อเครื่องรางเยอะมากๆ



จากที่นี่เราจะไปวัดสวนหิน Ryoanji Temple ต่อ ดูจากแผนที่ก็ติดกัน ก็เลยตัดสินใจเดินไป ปรากฎว่า เดินไปเรื่อยๆ ไม่ถึงซักที เดินจนเหนื่อยนั่นแหละ การจะเข้าไปดูสวนหินที่เลื่องชื่อต้องจ่ายค่าเข้าชม 500 เยน ที่นี่เป็นสวนแบบเซน สมัยศตวรรษที่ 15 อาคารเป็นพื้นไม้ต้องถอดรองเท้าเพื่อเดินชมด้านใน ด้านนอกจะมีสวนซากุระหลายๆต้น มีทั้งที่ยังออกดอกและร่วงอยู่ใต้ต้นเต็มไปหมด สวยอ่ะ




ความจริงเราจะไปต่อที่วัดถัดไป แต่เราต้องเปลี่ยนโปรแกรม เพราะว่าเราใช้เวลาที่สองวัดนี้จนบ่ายมาก เราจะไปศาลเจ้า Fushimi Inari ที่อยู่คนละทิศกับวัดนี้ และต้องนั่งรถไฟไป เลยตัดรายการอื่นออก แล้วไปศาลเจ้าที่ว่านี้แทน


ใครที่เคยดู Memoirs of Geisha น่าจะจำศาลเจ้านี้ได้ ที่นี่มีเสาโทริอิสีแดงใหญ่เล็กเรียงรายกว่าห้าพันต้น จะมีทางเดินระหว่างเสาขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงบนสุดเขา ระยะทางทั้งหมด 4 km ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชม จะมีจุดพักเลี้ยวเป็นระยะ บางจุดจะมีสระน้ำเงียบสงบอยู่ เราเดินไปเกือบครึ่งทาง ก็หยุดแล้ว ไม่ไหวอ่ะเดินขึ้นเขาเหนื่อยมากกกก ขาไม่ยอมร่วมเดินด้วยแล้วเลยตกลงใจเดินกลับ เพราะยังต้องใช้เวลาเดินกลับอีกนะ




พอออกจากที่นี่ก็เย็น เราตั้งใจจะไปเดินที่ Shijo ถนน shopping ที่อยู่บนถนนเส้นเดียวกับที่เราพัก เพียงแต่ขึ้นไปทางเหนือ ถนนเส้นนี้จะมีร้านค้าชื่อดังทั้งหลายตั้งอยู่ เดินเข้าไปด้านใน จะเจอถนนอีกเส้นที่เป็นคู่ขนานกับถนนเส้นนอก ที่นี่จะเป็นตลาดคล้ายตลาดสด เพราะมีของสด อาหาร ขนม และของอื่นๆขายตลอดเส้นทาง เดินไปแวะซื้อของกินชิมตามร้านไปเรื่อยเลย พวกของปิ้งของย่างแบบญี่ปุ่นน่ะ เรียกชื่อไม่เป็นเลยล่ะ ดูน่ากินทั้งนั้นเลย น่าเสียดายเรามาเย็นไป เขากำลังเก็บร้าน เลยได้ดูได้ชิมนิดเดียวเอง


รุ่งขึ้น เราไปนารา เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น แต่อากาศไม่ดี ฝนตกตลอด นั่งรถไฟจากเกียวโตไป 46 นาที ออกจากสถานีนารา ก็เดินไปดูวัด Kofukuji ที่มีเจดีย์ห้าชั้นเป็นเหมือน สัญญลักษณ์ของเมืองนี้ เดินได้ไม่นานมากเพราะเกรงใจฝน แล้วเราก็เดินไปวัด Todaiji ระหว่างทางจะผ่านสวนสาธารณะใหญ่ มีกวางเดินไปมาหลายๆตัว ทางเข้าวัด Todaiji ก็จะเห็นกวางเต็มไปหมดเหมือนกัน น่าเสียดายที่ฝนตก :(


ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปใหญ่ที่รู้จักกันดี ค่าเข้าชม 500 เยน วัดนี้เป็นวัดไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวกันว่าถ้าเพ่งมองหน้าพระพุทธรูปดีๆจะเห็นเหมือนพระจะเริ่มพูดด้วย พอดีเรามัวแต่ถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้เลยไม่ได้เพ่งมองไปที่หน้าพระอ่ะ




ออกจากวัดแล้ว เราก็ไปที่ Nara National Museum ค่าเข้าชม 1400 เยน บังเอิญเป็นช่วงที่มีงานจัดแสดงโอกาสครบ 1300 ปี ของการสถาปนาเมืองหลวงเก่า มีแสดงประวัติ เล่าเกี่ยวกับการรับเอาอารยธรรมจากแผ่นดินใหญ่ (จีน) และการแผ่อิทธิพลเข้ามาของจีน นอกจากนี้ยังมีพวกศิลปะวัตถุโบราณต่างๆที่น่าสนใจ พิพิธภัณฑ์ของเขาทำได้น่าดูมาก คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ใช้เวลาเดินอยู่นานพอควร ออกจากที่นี่ก็บ่ายมากแล้ว เราก็กลับเกียวโตเลย เพราะไม่อยากเดินท่ามกลางสายฝนอีก ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่


วันนี้ได้แวะที่ตลาดที่ Shijo อีกครั้ง ของขายของกินมากมายอย่างที่บอก ญี่ปุ่นเขามีเอกสักษณ์ของตัวเองจริงๆ ของญี่ปุ่น คนญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น เสียอย่างเดียว ผู้หญิงญี่ปุ่นที่เกียวโตตัวเตี้ย หุ่นไม่ดี แต่งตัวเฉพาะที่ญี่ปุ่น เขียนคิ้วทาหน้าถอดออกมาเหมือนกันหมดเลย ไม่น่าสนใจ สาวบ้านเราแจ่มกว่าสาวเกียวโตเยอะ ;-P

คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เกียวโต ว่าจะไป jam พิธีชงชา แต่เวลาไม่ตรงกันและต้องนัดเลยต้องตัดทิ้ง คราวหน้าแล้วกันนะ

2 ความคิดเห็น:

  1. ว๊าว..season นี้มีรูปเจ้าตัวเล็กของหุยมาให้ชื่นชมด้วย !!

    สาระที่ได้จากเนื้อเรื่องเล่า+น้ำลายสอตามไปเวลาหุยพูดถึงของกินนี่ไม่ต้องพูดถึงแล้ว หุยมือโปรจริงๆ

    ตอบลบ
  2. นอกจากราเมนแล้ว ดอกซากุระสุดสวยบวกกับพื้นหลังที่เป็นธรรมชาติงดงาม มาพร้อมกับละอองฝนโปรยปราย...โอ้ววว โรแมนติค ทำให้รู้สึกเหงา ๆ ขึ้นมาทีเดียวเชียวแหล่ะ.

    ตอบลบ