11 มกราคม 2553

ทริปวันเดียว เที่ยวสุพรรณ


ความจริงเราหนีงานตั้งแต่ 19/12/09 ยาวจนถึงปีใหม่เลยนะ (กรุณาอย่าอิจฉา) แต่ก็ไม่ได้ไปไหน มีไปบาหลีหลายวัน นอกนั้นก็อยู่บ้านไปไหนไม่ได้เพราะลูกๆสอบ และก็เลยใช้เวลาเป็นคนขับรถเอาใจท่านแม่บังเกิดเกล้า

เรื่องของเรื่องคือแม่เราเขาเห็นรายการทีวีเรื่อง อควาเลียมเปิดใหม่ที่สุพรรณ แล้วเขาก็อยากไป พอดีเราว่างยาวก็เลยพาเขาไป เลยกลายเป็นรายการทริปวันเดียวเที่ยวสุพรรณ นับรวมคนไปก็ห้าคนรถหนึ่งคันพอดี

เรายังไม่เคยเข้าสุพรรณบุรี เคยขับผ่านไปเมืองกาญจน์เท่านั้น พี่เราส่งแผนที่จุดแวะชมมาให้ดูล่วงหน้า 1 คืนซึ่งเราเปิดดูแวบเดียวก็เห็นว่าเป็นทางตรงๆไม่มีอะไร ตกลงกันว่าจะไปบึงฉวากก่อน แล้วค่อยไปตลาดร้อยปี กับพิพิธภัณฑ์มังกร

วันที่ไปก็อากาศดี ขับรถจากกรุงเทพฯออกไปเรื่อยๆ ถึงสุพรรณต้องยอมรับว่าเมืองนี้เงินถึงจริงๆ เพราะถนนหนทางเขาเรียบดีไม่มีสดุด ยังคุยกับพ่อแม่พี่น้องในรถว่า ถ้าทุกเมืองเงินถึงเหมือนกันหมด คงได้ร้อง โอ้โฮประเทศไทยแน่ๆเลย น่าเสียดายจริงๆ

เราขับไปเรื่อยๆ แล้วก็ตกลงกันเปลี่ยนแผนแวะใหม่ เพราะว่าสถานที่ที่จะแวะทุกที่อยู่ฝั่งซ้ายหมด จะง่ายกว่าถ้าถึงที่ไหนก่อนก็แวะเลย เราขับไปถึงพิพิธภัณฑ์มังกรก่อน ก็เลยแวะเป็นแห่งแรก มังกรตัวเบ้อเริ่มเด่นสง่าเห็นแต่ไกล ได้เดินดูรอบๆ จุดธูป ตีระฆัง สถานที่เขาทำไว้ดูดี สวยงามสงบเงียบ (เทียบกับเล่งเนี่ยยี่ 2 แม่เราชอบที่นี่มากกว่า) น่าเสียดายว่าไม่ได้เข้าไปในพิพิธภัณฑ์ เพราะวันที่ไปเป็นวันอังคารเป็นวันที่เขาปิดอ่ะ

ถัดจากที่นี่ จุดต่อไปก็คือตลาดร้อยปี สามชุก ที่ใครต่อใครบอกว่าของกินอร่อย ไปถึงเที่ยงพอดี เราก็กะว่าจะแวะชิมมันทุกร้านเลยที่เขาบอกว่าอร่อยห้ามพลาด โชคดีว่าไปวันธรรมดาหาที่จอดรถง่ายๆ เราพากันเดินเข้าไปในตลาด ดูโน่นนี่ ของกินเยอะดีเหมือนกันสองข้างทางเลย เราเข้าไปหาร้านข้าวห่อใบบัวก่อนเลย แล้วให้พ่อแม่เรานั่ง เสร็จแล้วควักโพยสั่งอาหารรายการห้ามพลาด ข้าวห่อใบบัว ข้าวคลุกกะปิ แล้วสั่งจากร้านข้างๆก๋วยเตี๋ยวบก แล้วก็ไปสั่งทอดมันร้านดัง เขาบอกหมด อดชิมเลย สั่งเสร็จเราก็ข้ามไปซื้อกาแฟเจ้าดัง แบบตั้งใจลอง ซื้อกาแฟเย็น ชาดำเย็น ชาเย็น กะลองให้หมดไง แล้วเดินเลยเข้าไปซื้อห่อหมกชื่อดังกลับมานั่งกิน แล้วขอสรุปว่า อาหารก็งั้นๆ ก๋วยเตี๋ยวเขาก็โอนะ ส่วนกาแฟก็งั้นๆ (เจ้าถิ่นกรุณาอย่าโกรธเลยนะ)

เสร็จจากนั่งโต๊ะกิน ก็ถึงเวลาเดินช็อปของกินอีก มีแวะซื้อของกินกลับบ้าน เช่นขนมไข่ (อันนี้ไม่เลว ด้านนอกกรอบใช้ได้) ทองม้วน (ก็ไม่เลว กรอบหนา หมดในเวลารวดเร็ว) ขนมไทยอื่นไม่ได้ซื้อเพราะไม่ค่อยนิยมขนมหวานๆเท่าไหร่ แวะซื้อหมูแท่งกลับมาเยอะมาก ชิมแล้วอร่อยดีใช้ได้เลย อย่างเดียวที่ไม่ได้ซื้อคือเป็ดพะโล้เจ้าดัง เลยไม่รู้ว่าอร่อยหรือเปล่า เพราะเรายังต้องไปต่ออีก กลัวกลิ่นเป็ดในรถ และกลัวว่าเก็บในรถแล้วจะเสียอดกินอีกต่างหาก เรายังมีแวะดูอาคารร้านรวงแถวนั้นด้วย ไม่เล่าเยอะหรอก ใครยังไม่เคยไปก็น่าแวะอยู่นะ และกว่าเราจะหลุดจากที่นี่ก็บ่ายเยอะอยู่ แม่เราบ่นให้รีบไปต่อได้แล้ว

จุดต่อไปก็คือบึงฉวาก ซึ่งเป็นสถานที่อยู่สุดเมืองสุพรรณ คนทำเข้าใจคิดให้คนมาเที่ยวแวะได้ตั้งแต่หัวเมืองยันท้ายเมือง และท้ายเมืองตอนนี้สวนน้ำ อควาเลี่ยมเปิดใหม่ เรียกคนได้อีกตรึมเลย เราขับไปถึง จากทางเข้ายังต้องเข้าไปอีก แต่ตลอดระยะทางจะเห็นบึงกว้างใหญ่สวยงามดีทีเดียว เขามีทำรีสอร์ทข้างบึงด้วย บรรยากาศใช้ได้นะ

ข้างในมีสองชั้น ต้องซื้อตั๋วชั้นนอกก่อน ชั้นนอกคือสถานที่เก่าที่เข้าไปดูปลาตามตู้ คล้ายพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่บางแสน ปลาเขาก็เยอะใช้ได้ มีปลาแปลกๆสีสวยด้วยนะ แล้วเดินเข้าไปที่ตึกใหม่ ซื้อตั๋วอีกใบเข้าไปดู อควาเลี่ยมเปิดใหม่ ข้างในก็กว้างขวางพอสมควร ไม่มืดทึม อุโมงค์ดูใต้น้ำก็ยาวพอควร มีปลาให้ดูพอสมควร เราว่าเราชอบที่นี่มากกว่าที่สยามโอเชี่ยนอีก คนต่างจังหวัดไม่ต้องลงไปกรุงเทพฯ เพื่อไปดูปลาอีกแล้ว มาแค่ที่นี่ก็พอ

Underwater World นี่เราเคยไปดูที่สิงคโปร์ เขาทำได้ดูดีไม่เลว แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นมากมาย ที่ออสเตรเลีย ดูดีกว่า เห็นปลาเยอะแยะ ตัวใหญ่ด้วย ฉลามหลายตัวนอนแบะอยู่ตรงผนังโค้งอุโมงค์เหนือหัวเราเลย ที่บ้านเราสยามโอเชี่ยน เคยเข้าไปครั้งเดียว จำได้ว่าข้างในมืดๆทึมๆ ระยะทางสั้น ปลาตัวไม่ใหญ่เท่าไหร่ ไม่ตื่นเต้น ส่วนที่นี่เราว่าใช้ได้ ค่าบัตรเข้าส่วนนี้ก็ 150.- ไม่แพงเท่าไหร่

เราอยากชมคนพัฒนาเมืองสุพรรณ ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ส่วนตัวอะไรก็ตาม แต่เขาก็ทำเมืองนี้ได้สะอาดน่าอยู่น่าเที่ยว สร้างจุดขายให้คนมาเที่ยวได้อ่ะ

พอออกจากบึงฉวาก ก็จะกลับบ้านเลย แต่มีขอแวะข้างทางซื้อแตงโม เราเห็นตั้งแต่ตอนขาไป แตงอะไรสีเหลือง ตอนแรกนึกว่าแตงไทย แต่คนขายบอกเป็นแตงโม เลยต้องซื้อมาลองว่าอร่อยไหม คำตอบคืออร่อยค่ะ หวานใช้ได้เลย ไม่รู้ที่กรุงเทพมีขายที่ไหน ยังไม่เห็น

สรุปทริปวันเดียวก็จบแล้ว งานนี้ไม่มีรูปให้ใส่เพราะกล้องไม่อยู่อ่ะ ไปเที่ยวดูเอาเองแล้วกันนะ

7 ความคิดเห็น:

  1. ขอชูมือสนับสนุนหุยด้วยคน น่าไปเที่ยวมากๆเลย ทั้งตลาดร้อยปี สามชุก ซึ่งได้รับรางวัลตลาดชุมชนอนุรักษ์ดีเด่นอะไรสักอย่าง น่าจะติดระดับโลก

    บืงฉวากก็ไม่แพ้ใครในโลก ท่านเติ้งเสี่ยวหารดูแลอย่างใกล้ชิด

    ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ มีจุดเด่นที่พิพิธภัณฑ์มังกร

    ที่อยากแนะนำอีกแห่ง คือ แวะไหว้หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลย์ อยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์มังกร

    แหล่งน่าเที่ยวที่สะดวก ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก นำเงินไปกระจายสู่นอกกรุงเทพบ้างก็ดีนะ

    ขอสมัครเป็นแฟนหุยสักคนนะครับ(Fan Club หนะ)จะติดตามผลงานตลอดไป

    ตอบลบ
  2. หุยเล่าหนุกดีอีกแล้ว ดีจังเลยอุดหนุนการท่องเที่ยวบ้านเรา แต่เราไม่ชอบอย่าง เที่ยวเมืองไทย มันโคตรร้อนเลย แต่น่านี้คงสบายๆ
    นพถ้าจะไปอีกเมื่อไหร่บอกนะ รอเรากลับไปเที่ยวเมืองไทยจะขอติดรถไปด้วยคน ก้อแปลกนะ ไม่เคยเรียนกับนพเลย แค่เจอกันทางเมล์ แต่ความรู้สึกเหมือนกันเองมาก เอ๊ สงสัยเราจะคิดแค่คนเดียว
    ยังไงถ้าเราได้กลับนะ นพเป็นหนึ่งในเพื่อนหลายๆคนที่อยากเจอเลยหละ

    ตอบลบ
  3. ดีใจจัง ทั้งทิพและนพมีความคิดเหมือนกันเลย
    เวลาทิพห่างหายไปจากเมลนานๆ ก็จะรู้สึกกังวล ห่วงว่าเป็นอะไรรึเปล่า

    วันไหนเจอกัน วันนั้นคงจะเป็นอีกวันที่ต้องจดจำไว้ไม่ลืมเลือน...แน่นอน

    (เออ!ทิพได้ข่าวงิ้ม เซี่ยงไฮ้บ้างรึเปล่า ขานั้นก็หายไปจากเมลนานแล้วนะ)

    ตอบลบ
  4. ขอสมัครเป็นแฟนหุยด้วยอีกคน หุยเขียนสนุกชวนให้อยากไปเที่ยวบ้าง โดยเฉพาะทริปวันเดียว ไม่ไกลมากอย่างนี้ สงสัยต้องไปทัศนาสักครั้ง.

    THIP ตานพนี่เสน่ห์แรงนะ ขอบอก แถมยังมีน้ำใจ คอยรักคอยห่วงเพื่อนอีก(แอบได้ยินมา)

    ตอบลบ
  5. นพ ยังติดเราอยู่เรื่องตลาดบางน้ำผึ้งนะ ยังไม่ลืมนะขอบอก

    ตอบลบ
  6. ดีใจที่มีแฟนคลับกับเขาบ้างแล้ว

    ตอบลบ
  7. ดีใจที่หุยยังไม่ลืมตลาดบางน้ำผึ้ง

    นพจะโทรไปนัดนะ อย่าให้มนตรีรู้ล่ะ เดี๋ยวขอตามไปด้วย เรา 2 คนจะพากันเซ็งแย่เลย

    อ้อ...ชวนคุณแม่ไปด้วยก็ดีนะ

    ตอบลบ