26 มกราคม 2553

เฉิงตู - 3 (ตอนจบ)




ตอนที่ 3 (ตอนจบ...ที่รอคอ)

บทความโดย : จอมยุทธ นพ (พยัคฆ์ร้าย 007)


วันที่ 4 ( ศุกร์ 1 มค.53 )
ออกจากโรงแรมประมาณ 9 โมงเช้า เมื่อถึงเชิงเขาง้อไบ๊ ต้องเปลี่ยนรถเป็นรถบัสขนาดเล็ก เพื่อสะดวกในการขึ้นเขา รถเราขึ้นเขาไปได้ระยะนึง ก็ต้องจอดเพื่อให้เจ้าหน้าที่นำโซ่เหล็กมาคล้องกับล้อรถไว้ เหตุผลคือกันล้อลื่น เพราะระยะทางที่เราจะขึ้นไป ถนนจะเต็มไปด้วยหิมะ ถ้าไม่ใส่โซ่ไว้ มีหวังไม่ถึงจุดหมายปลายทางแน่เลย
ใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ รถพาเราถึงสุดทางที่รถขึ้นไม่ได้แล้ว พวกเราก็เตรียมตัวเดินย่ำหิมะ
พอลงจากรถก็มีอาแปะเดินมาขายอุปกรณ์เหล็กสำหรับผูกติดกับพื้นรองเท้าเพื่อกันลื่นเวลาย่ำหิมะ ตกคู่ละ 15 หยวน ทุกคนในคณะพากันซื้อถ้วนหน้า พวกเราพากันเดินอย่างระมัดระวังกัน เดินกันไป ถ่ายรูปกันไป อ้อ!ลืมบอกไป ทางเดินขึ้นเขามีบริการนั่งเกี้ยวสำหรับคนที่เดินเองไม่ไหว แบกโดยคนสองคน ค่าบริการ 80 หยวน
เดินไปโดยไม่เหน็ดเหนื่อย และเราก็ถึงแล้ว แต่!ยังไม่ถึงยอดเขาคร๊าบ ต้องต่อกระเช้าไฟฟ้าอีก น่าจะเรียกว่ากระเช้าไฟฟ้ายักษ์นะ เพราะสามารถจุคนได้เป็นร้อยคน วันนี้มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่ละคนก็เดินไปเข้าแถวเพื่อทยอยขึ้นกระเช้าไฟฟ้า น่าทึ่งมากที่จีนสามารถสร้างกระเช้าขนาดยักษ์อยู่บนเขาได้
กระเช้าไฟฟ้าได้พาเรามาถึงยอดเขาจินติ่ง (ยอดวิหารทองคำ) ซึ่งเป็น ยอดเขาที่สูงที่สุดของเขาง้อไบ๊ พวกเราได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันสลับซับซ้อนไปด้วยขุนเขาเหนือชั้นเมฆ ต้องยอมรับว่าสวยงามดุจสวรรค์จริงๆ เราได้เดินขึ้นไปอีกหน่อยเพื่อกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิมประทับทรงช้าง 4 เชือกที่ใหญ่ที่สุดและพึ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน บนยอดเขายังมีวัดผู่กวง สร้างในสมัยราชวงศ์จิ๋น และบูรณะใหม่ในราชวงศ์ชิง โดยใช้กระเบื้องมุงหลังคาสีเหลืองทอง ยามกระทบกับแสงอาทิตย์จะมองคล้ายหลังคาทอง จึงได้ชื่อว่า "วิหารทองคำ"
อิ่มเอมจากความงดงามและความมหัศจรรย์แล้ว เราก็อำลาเขาง้อไบ๊เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองสุ่ยหนิง ใช้เวลาเดินทางนานถึงเกือบ 4 ชั่วโมง เมื่อถึงแล้วก็ค่ำพอดี คณะเราได้ลงเรือล่องทะเลสาบเจ้าแม่กวนอิม ในเรือมีพนักงานสาวมาบรรยายประวัติและความงามของทะเลสาบ นางยังร้องเพลงให้ฟังด้วยและยังมีอีกนางเล่นกู่เจิ้ง ฟังดูไพเราะเพราะพริ้ง รอบทะเลสาบตกแต่งด้วยแสงสีตระการตา ตึกโดยรอบประดับไฟ ซึ่งค่าไฟเหล่านี้รัฐบาลจีนเป็นผู้รับผิดชอบ
คืนนั้น เราพักที่ Tlanyouint Hotel ( 4 ดาว)

วันที่ 5 (เสาร์ 2 มค.53)
แหล่งท่องเที่ยวที่เราจะไปในวันนี้จะไปกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิมสองแห่ง
วัดแรกชื่อว่าวัดกวงเต๋อ เป็นวัดบ้านเกิดเจ้าแม่กวนอิม เป็นปางเจ้าแม่กวนอิมทรงในร่างผู้ชาย ที่นี่เป็นวัดหลวงระดับ9 วัดแห่งนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 5 อย่าง คือ หน้าบันโบราณ เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ ตราประทับหยกเหอเถียนเจ้าแม่กวนอิม ป้ายจารึกเก้ามังกร(ประวัติเจ้าแม่กวนอิม) และพระพุทธรูปหยก
วัดที่สอง เรียกว่าวัดหลิงเฉียน ชาวบ้านจะเรียกว่าวัดเจ้าแม่กวนอิมกระพริบตา มีความเชื่อว่าเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะมีเรื่องเล่าว่า ตอนเกิดแผ่นดินไหวที่
มณฑลเสฉวน ท่านได้กระพริบตาและหลั่งน้ำตาออกมา เรื่องนี้ได้มีหลักฐานและนำไปออกรายการ CCTVด้วย
หลังขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลทั้งสองแห่งแล้ว พวกเราก็เดินทางกลับเฉิงตู อาหารมื้อเย็นมื้อนี้ มีเมนูกุ้งมังกรซาซิมิ ภัตตาคารนี้ใหญ่มาก แต่ก็เต็มทุกโต๊ะ เจอท่านจุรินทร์ รมต.ศึกษา ท่านยกมือไหว้เรา (หลังจากเราไหว้ท่าน) ก็ได้ถ่ายรูปคู่กัน หลังเจอเราคงโชคดีขึ้น กลับมาเมืองไทยได้ปรับเป็นรมต.พาณิชย์เลย
ดีใจคืนนี้ได้พักโรงแรมเดียวกับคืนวันที่ 30ธค.52

วันที่ 6 (อาทิตย์ 3 มค.53)
จะเห็นว่าวันที่ผ่านมา ทัวร์เราไม่มีพาไปช๊อบปิ้งเลย แต่กฎเกณฑ์ของทางการจีนต้องพานักท่องเที่ยวไปร้านขายผ้าไหมจีนและร้านขายยาจีน
แต่เราชอบดื่มชาจีนจึงให้เขาพาไปชิมชาด้วย ทั้ง 3 แห่งอยู่ไม่ไกลกัน เราไปครบ แต่ซื้อใบชาอย่างเดียว ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเรียกว่า ชากุ๋ยฮัว
และสุดท้าย เวลาบ่ายสามโมง เที่ยวบิน TG 619 นำพวกเรากลับสุวรรณภูมิ ในเวลาเกือบหกโมงเย็น

เป็นอันว่าจบแต่เพียงเท่านี้ สวัสดี.
........................


19 ความคิดเห็น:

  1. ในที่สุด เฉิงตู-ซีรี่ส์ ก็จบลงได้อย่างน่าประทับใจ ขอปรบมือให้กับท่านนพ ที่อุตส่าห์เขียนเล่ามาให้ฟังอย่างสนุกสนาน ซีรี่ส์ต่อไปต้องไปลุย Hollywood แหงมเลย(พยัคฆ์ร้าย007...อะไรประมาณเนี้ยะ)...เท่ห์มั่ก ๆ

    อ่านจบแล้ว ก็ขอร่วมอธิษฐานให้ท่านเตี๋ยวถูกหวยรางวัลที่หนึ่งสักสาม-สี่ใบ เผื่อว่าท่านเตี๋ยวที่แสนจะใจดี จะมีเมตตาพาปู่ไปเที่ยวด้วยคน.

    ตอบลบ
  2. วิว ทิวทัศน์สวยมาก
    โดยเฉพาะมีเจ้าแม่กวนอิม ที่ลูกชายเราชอบมากเลย
    คงต้องไม่พลาดทัวร์รายการนี้
    55555

    ขอบคุณจอมยุทธ์ 007

    ตอบลบ
  3. มีเหตุผลที่อยากจะเขียนหลายๆตอนเลย คือเพลงประกอบนั่นเอง ชอบทุกเพลงที่ท่านปู่จัดมาให้

    วันนี้ได้ฤกษ์ที่จะรบกวนขอเพลงจากท่านปู่ นึกชื่อเพลงไม่ออกน่ะครับ เอาเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพื่อนทีดีมากคนหนึ่ง อยู่ดีๆก็หายจากไปโดยไม่บอกกล่าวอะไร ไม่ทราบมีความในใจหรือแค้นเคืองใคร อะไร อย่างไร

    ขอบคุณท่านปู่ล่วงหน้าครับ

    ถ้า Vat จะพาลูกชายไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่เฉิงตู รับรองไม่ผิดหวังครับ

    ตอบลบ
  4. กำลังสงสัยเชียวว่าจะเขียนกี่ตอนจบ คราวนี้สามตอน คราวหน้าจะมากกว่านี้ใช่ไหม แย็บเก่งจริงๆนะ 007

    ตอบลบ
  5. นี่ช่วยส่งรูปรองเท้าย่ำหิมะ 15 หยวน ให้ดูหน่อยสิ อยากเห็นอ่ะ

    ตอบลบ
  6. เพลงโจทย์ของท่านนพครั้งนี้ยากจริง ๆ
    คิดว่าคงมีความรู้สึกร่วมกันอยู่หลาย ๆ คน
    น่าจะสื่อออกมาได้บ้าง!

    ตอบลบ
  7. ไม่ใช่รองเท้าน่ะหุย เป็นอุปกรณ์ทำด้วยเหล็กวางตรงกลางใต้รองเท้า มีเชือก 2 ข้างใช้ผูกติดกับรองเท้าให้แน่น ส่วนที่โดนหิมะจะเป็นหนามแหลม เวลาเดินมันจะทิ่มเข้าไปในหิมะ ช่วยไม่ให้ลื่น หลังใช้เสร็จไม่มีใครเอากลับมาเลย

    อธิบายได้เท่านี้เอง คิดว่าคงไม่เข้าใจ เดี๋ยวจะโทรไปบอกเล่าก็แล้วกันนะ

    ตอบลบ
  8. ท่านพยัคฆ์ร้ายนพ 007 (ดูจากรูป มีความใกล้เคียงมาก) ไม่น่ารีบจบเลย ถ้ามีเวลาก็เขียนภาคพิสดารต่อให้เพื่อนๆอ่านอีกนะ เอารูปเยอะๆด้วย

    ตอบลบ
  9. เพลงเพราะมากจนทำให้เราเข้ามาเม้นไม่ออกเลยหละ ฟังเพลงนี้แล้ว ทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตยังขาดอะไรบางอย่างที่เราก้อนึกไม่ออก

    ให้นุึกแล้วชีวิตพวกเราก้อมาถึงบัดนี้แล้ว การได้เจอเพื่อนได้พบปะสังสรรค์ จิบเหล้าและเล่า มันเป็นความรู้สึกที่ดีนะ เมื่่อลูกหลานโตขึ้น เค้าก้อมีชีวิตเค้า ส่วนพวกเราถ้าได้เจอกัน ก้อคงทำให้ชีวิตไม่รู้สึกเหงานะ ขอบจายจริงๆ ที่มีเรื่องมาเล่า และมีเพลงเพราะๆให้ฟัง ถึงแม้จะหาเปิดได้เองก้อตาม แต่เราชอบที่ท่านปู่จัดหาให้อะ

    ตอบลบ
  10. อ่าน comment ของทิพแล้วน้ำตาจะไหล...
    ความรู้สึกที่มีในช่วงวัยรุ่นมันจะเป็นอย่างไรก็ตาม พอผ่านวันเวลามาถึงปัจจุบัน มันกลายเป็นความผูกพันธ์ เป็นเหมือนญาติ-เป็นพี่น้อง-เป็นเพื่อน...ตลอดกาล T_T

    ตอบลบ
  11. เหอ เหอ อย่าร้องไห้ ลองเข้ามาเม้นแบบจริงจังดูบ้างแค่นั้น เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นแต่เรื่องไร้สาระ ไม่น่าเชื่อเกือบเรียกน้ำตาจากผู้ติดตามอ่าน
    ความจริงจินตาเกินของเราไม่ค่อยเหมือนใคร เราก้อเลยเม้นตามแบบของเรา

    และเราคิดว่า มีอาปู่ มีอานพ ที่ไหนเราจะตามไปหลอกหลอน เพราะเรารู้ว่าสองคนนี้ชอบ ห้า อ้า อ้า (หลงตัวเองอีกแล้ว)

    ว่าแล้วขอเปลี่ยนชื่อเรื่องหน่อยเหอะ เปลี่ยนเป็น กังฟูแพนด้าย่ำรอยป๊าม้า

    ตอบลบ
  12. ไชโย้...
    ในที่สุดอาทิพก็หาทางกลับบ้านถูกจนได้ เห็นเม้นต์ซึ้ง ๆ แล้ว กลัวทิพติดใจสไตล์ซึ้งขึ้นมา Blogเราคงจะเศร้า

    ที่จริงแล้ว จริงจังก็ได้ ไร้สาระก็เอา ขอให้มัน ๆ ตามสไตล์ทิพล่ะกัน...ชอบของมันสส์

    ตอบลบ
  13. เออ ชอบของมันส์ ทำไมไม่อ้วนซักทีนะ ตั้งแต่เด็กจนเกือบ( )
    อย่าเพิ่งดีใจมากนะปู่ เดี๋ยวจะเจอหลายดอก ห้า อ้า อ้า

    ตอบลบ
  14. คุณนายห้า อ้า อ้า

    สำนวนหลายรส หลายแนว แต่ที่เราชอบที่สุดคือ
    "อ่านแล้วได้หัวเราะ แม้จะน้ำเยอะ เนื้อน้อยก็เหอะ"

    คราวหลังปู่คงต้องบอกคุณนายให้ใส่มันเยอะ ๆ หน่อย
    จะได้เพิ่มแคลลอรี่ บลา บลา

    ตอบลบ
  15. เรื่องของน้ำตา...
    อย่างเลวเลยคือ...น้ำตาไหลเพราะร้องไห้เสียใจ
    อย่างดีพอใช้ได้คือ...น้ำตาไหลเพราะซึ้ง
    อย่างดีสุดยอดคือ...น้ำตาไหลเพราะขำ-เพราะหัวเราะไม่หยุด-เพราะ ment&mail ของทิพ...555(ขำล่วงหน้า)

    ตอบลบ
  16. อุ๊5/2/53 14:14

    Blog นี้ Popular จังเลย แฟนคลับเพียบ เลื่อนบรรทัดอ่านจนเมื่อย

    เจอนพคราวหน้าจะขอยกมือไหว้สักที เผื่อจะได้เป็นใหญ่เป็นโตกับเขามั่ง !!

    ตอบลบ
  17. เชอะ เชอะ เชอะ คุณนายแว๊ด แหมเห็นเราเป็นตลกคาเฟ่ไปได้
    จะเนื้อน้อย น้ำเยอะ ก้อเถอะ เนื้อก้อเนื้อสวรรค์ น้ำก้อน้ำอุทัยทิพย์นะยะ
    ใครได้เสพแล้ว รับรอง เข้าห้องน้ำแล้วไม่ผิดหวัง ลื่นไหลเหมือนจารบี

    ว่าแต่เจ้าของคอล่ำ (ไม่ผิด)เข้ามาเล้าเรื่องเสร็จก้อเปิด(สะโพกหนี)
    ปล่อยให้อาปู่ กู้อีจู้ มาร้องห่มร้องไห้ น้ำตาหลาย อยู่คงเลียว

    ตอบลบ
  18. อ๊ากกก...โดนเข้าไปอีกหนึ่งดอก อ๊าก...กระอักโลหิตออกมาหนึ่งคำ

    "ขอบพระคุณแม่นางทิพ ที่เมตตาไว้ชีวิต"...

    ตอบลบ
  19. จริงๆแล้วเราเป็นคนมีเมตตานะ แต่ซ่อนไว้เบื้องหลังความน่าจะร้ายในตัวเรา
    ไม่ต้องขอบพาคุณ

    ตอบลบ