22 มิถุนายน 2553

ไหว้พระ ล่องเรือ อยุธยา


เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ประสงค์ดีไม่ประสงค์ร้าย นัดชุมนุมกัน โดยสถานที่นัดพบคือที่ซอยลาดพร้าว 71 เวลา 13.00 น. เป็นการนัดชุมนุมโดยความพยายามไม่ให้เกิน 10 คน เนื่องจาก มีข้อบังคับอันรัดกุมคุมอยู่ เป้าหมายการชุมนุมครั้งนี้ เพื่อล้มล้างความกระหายอยากพบเพื่อนของใครบางคน และเพื่อกระชับความรู้สึกคิดถึงเพื่อนของใครบางคน เจตนาโดยแท้จริงไม่อยากจำกัดการชุมนุมที่ 10 คน แต่อยากให้มีมากกว่านี้ เพียงแต่ว่าครั้งนี้เป็นการแหยมๆดูว่า การชุมนุมจะราบรื่นเพียงใด และเมื่อถึงเวลานัด ปรากฎว่าผู้ชุมนุมถดถอยเหลือเพียง 6 หน่วยกล้าตายเท่านั้น

อันได้แก่ นพ ไม้ยมก, เตี๋ยว ย้อนศร (คนนี้ ยังมีฉายาอื่นๆอีกนะ ได้มาตามทาง), นก ขี้ร้อน, อุ๊ หกดอก, ปู ตบปาด (บวกช่างกิน) และหุย เอคโค่

เมื่อถึงเวลานัด ท่านเตี๋ยวก็แสดงความน่ารักน่าชังโดยเสนอรถพร้อมเป็นคนขับให้เสร็จ พี่ท่านก็ขับรถอย่างใจเย็น บ่งบอกถึงการเป็นคนอารมณ์เย็น แต่ไม่ทันใจวัยรุ่นอย่างปู ที่บอกเตี๋ยวว่า ให้ตบขวาแล้วปาดซ้าย จึงเป็นที่มาของฉายา ปู ตบปาด ไง ส่วนท่านเตี๋ยว สงสัยเสียงพวกผู้หญิงเข้าหูเยอะ เลยเบรอเป็นตอนๆ ขับเอ๋อๆเป็นบางที ส่วนนพ นั่งเป็นเพื่อนเตี๋ยว แต่ไม่ได้เป็นฝ่ายสนับสนุนเตี๋ยวนะ แต่เป็นฝ่ายกัดน่ะ สองคนนี้ทำให้สาวๆหวาดเสียวกับท่าทางที่ทอดสมอให้แก่กันด้วยนะ นกจะเข้าใจไหมเนี่ย

ไปถึงอยุธยาก็บ่ายแก่ อากาศกำลังร้อนเลย พวกเราแวะที่วัดใหญ่ชัยมงคลก่อน หาที่จอดรถได้ ก็เข้าไปไหว้พระนอน เสร็จแล้วก็ต่อไปไหว้พระที่อุโบสถ ตอนแรกว่าจะเดินดูอย่างอื่นด้วย แต่เพราะอากาศร้อนมาก เลยไม่มีอารมณ์เดิน กลับมาที่รถแล้วก็ไปต่อที่วัดพนัญเชิง ที่อยู่ไม่ไกล




ถึงวัดพนัญเชิงก็เข้าไปไหว้พระ จุดธูปเทียนไหว้พระข้างนอก แล้วเข้าไปไหว้อธิษฐานกับหลวงพ่อโตข้างใน เสร็จแล้วออกมายืนคุยได้แป๊ป นกก็บอกให้ไปนั่งคุยในรถเถอะ อากาศร้อนอ่ะ




ออกจากที่นี่ ว่าจะไปวัดมงคลบพิตรต่อ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจกัน คนขี้ร้อนเริ่มเพิ่มจำนวน เลยสรุปว่าเป็นขับรถวนหนึ่งรอบในเมือง ดูวัดโบราณและซากปรักหักพังต่างๆ แล้วไปเดินที่ตลาดน้ำอโยธยากัน



ตอนที่ไปถึงตลาดน้ำ พอดีมีการแสดงชาวบ้านบางระจัน คนเต็มไปหมด แทบไม่มีที่เดินเลย ขอแนะนำว่าใครจะมาให้มาช่วงอากาศเย็น เดินสบายกว่ากันเยอะ ที่นี่เพิ่งเปิดเมื่อเดือน พค ที่ผ่านมา มีร้านรวงขายของเยอะแยะ ปูท่าจะรู้มากกว่าเพื่อน เพราะชี้ชวนตลอดทาง ร้านโน้นอร่อย ร้านนี้อร่อย โน่นน่ากิน นี่น่ากิน สารพัด สรุปว่าพวกเราก็ได้ซื้อขนมกันมาคนละนิดละหน่อย พอออกจากที่นี่ก็แวะไปซื้อ โรตีสายไหม ชื่อดัง แล้วก็เลยไปดูวัดไชยวัฒนาราม แล้วก็กลับมาที่ร้านอาหารไทรทองริเวอร์ริมแม่น้ำ



ร้านอาหารนี้ค่อนข้างมีชื่อเลย เราจองเรือเล็กแบบเหมาเป็นชั่วโมงสำหรับคนไม่เกิน 10 คน เวลา 18.00 น.พอมี 6 คนก็หลวมๆ โอเค พอถึงที่ร้านอาหาร ก็เช็คเมนูสั่งของกิน พร้อมลงเรือ




เริ่มล่องเรือตอนนี้เพราะจะได้เห็นวิวแม่น้ำและสองฟากฝั่ง เป็นอะไรที่เย็นๆใจเย็นๆกาย ลมพัดโชย เรือยนต์ก็ล่องไปเรื่อยๆตามลำน้ำป่าสัก ออกเจ้าพระยา สุขนี้จะหาไหน แถมเพื่อนๆเฮฮาสนุกสนาน สุขนี้ยิ่งน่าอิจฉานัก (คนอ่านที่ไม่ได้ไป ถ้าตาร้อน เอาผ้าเย็นมาปะคบหน่อยนะ) พวกเราก็กินไปดูวิวไป แย่งกันคุย ปรากฎว่าอาหารหมดเร็วมาก ล่องเรือไปกลับรวม ชั่วโมงครึ่ง ขากลับมืดแล้ว ก็จะเห็นวิวอีกแบบ ที่เขาเปิดไฟส่องตามวัดหรือสถานที่สำคัญ สวยมากนะ คนที่อกหักหน่อยคือนพ เพราะไม่มีใครยอมกินเหล้ากับเขา กินคนเดียวแล้วก็บ่นถึงหลอเลยล่ะ







รูปสุดท้ายนี้คืออาหารที่คนสั่งไม่ยอมกิน คุณนายอุ๊ต้องแกะกุ้งให้กิน เป็นแม่บ้านสุดๆ สุดท้ายรูปที่เห็นได้รับการห่อกลับอย่างดี สำหรับคุณนายนกเอาไปผัดข้าวผัดให้สามีตัวดีกิน

พอเรือวนครบรอบ กลับมาถึงร้านอาหาร พอขึ้นจากเรือก็ออกมาขับรถวนในเมืองอีกรอบ เพื่อดูวิวตอนกลางคืนที่เขาเปิดไฟ ซึ่งแตกต่างจากวิวตอนกลางวัน ความสวยงามต่างกัน เสร็จแล้วก็ได้เวลากลับ แต่มีรายการแวะตลาดหาซื้อของหวานกิน โดยหนูปูเจ้าเดิม บวกหนุ่มนพและท่านเตี๋ยว พวกนี้มีเนื้อที่สงวนสำหรับของหวานอีกอ่ะ นับถือนับถือ

งานนี้ทุกคนที่ไปก็สนุกสนานกัน หัวเราะกันเยอะมาก หัวเราะตลอดทาง จนเกือบจะนัดกันไปนวดคลายเส้นหยักบนใบหน้าส่วนฉายาต่างๆที่แต่ละคนได้ ให้ไปถามกันเอาเอง มีพูดกันด้วยว่าเลี้ยงรุ่นงวดหน้าพาลงเรือใหญ่ก็ไม่เลวนะ เอ้า ใครอยากไปยกมือขึ้น

ขอบคุณเตี๋ยวที่ขับรถให้ แถมให้เพื่อนๆนั่งจิกตลอดทางด้วย

7 ความคิดเห็น:

  1. ดูจากรูปแล้ว อยุธยาก็ยังเป็นที่ที่น่าไปเที่ยวเสมอ...
    กินอาหาร - ชมวิว เคล้าเสียงหัวเราะ...ผ้าชุบน้ำแข็งก็เอาไม่อยู่แล้วล่ะ

    ตอบลบ
  2. แล้วเมื่อไหร่ปู่จะออกจากสำนักมาร่วมขันหัวเราะล่ะ อย่างนี้เรียกว่าเก็บตัวหรือหวงตัวไม่รู้นะ

    ตอบลบ
  3. เตี๋ยว23/6/53 00:54

    ต้องขอบอกเลยว่า คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสกลับมา
    เยือนถิ่น ย้อนรอยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย
    อย่าง กรุงศรีอยุธยา หลังจากที่ได้ร้างลา มาเป็นเวลาถึงยี่สิบ
    กว่าปี เพราะมีบรรยากาศ ล่องเรือ ร่วมรับประทานอาหารกับ
    เพื่อน ๆ ที่รู้ใจ พร้อมกับได้ดื่มด่ำกับ แสง สี ในยามค่ำคืนของ
    วัดวาอารามที่สำคัญ ๆ ซึ่งถ้าได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของแต่
    ละแห่งด้วยแล้ว จะเสมือนกับว่า ได้เข้าไปอยู่ในสถานที่นั้น ๆ
    ในอดีตเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องของเสียงนั้น ไม่ต้องพูดถึง
    เพราะตั้งแตขึ้นรถที่บ้านหุย เวลา 13.00 น. จนกลับมาถึง
    บ้านหุยอีกทีเวลา 22.30 น. ไม่มีการหยุดเสียงหัวเราะเลย
    มีการปะทะคารม ชนิดคมเฉือนคมกันตลอด สุดยอดจริง ๆ
    ถึงแม้ว่า อากาศจะร้อนสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจจะทำลาย
    ความสนุกสนานได้เลย งานนี้นอกจากจะอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
    ยังมีแถมตีนกากับมาอีกต่างหาก และฝากขออภัยพวกเราไป
    เซอร์เวย์กันจริง ๆ

    ตอบลบ
  4. โอเค ยกโทษให้ก็ได้ อุตส่าห์บอกว่าไปเซอร์เวย์ให้เพื่อน ๆ

    เห็นรูปแล้วก็อิจฉาตาร้อนผ่าว ๆ

    ว่าแต่ เราอยากประกาศคนหายจัง
    "พัด จรัญ กลับกรงแมวได้แล้ว เพื่อน ๆ ให้อภัยแล้วนะจิ๊ นะจ๊ะ"

    ตอบลบ
  5. ถึงเช้าวันไปอยุธยา ยังนึกว่าฝันไป จนอุ๊มาที่บ้าน จึงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

    เป็นวัน ว.เวลา น.ที่มีความสุขมาก ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้ปะฉะดะคารมกัน
    แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ สาวๆต้องกลับไปกระชับวงล้อมดวงตากัน

    เป็นการเซอร์เวย์ที่สนุกปนเปื้อนไอร้อนสุดสุด
    เป็น 1 วันที่มีคุณค่าควรแก่การจดจำไว้ไม่ลืมเลือน

    ตอบลบ
  6. หุย...

    ที่จริงวันนั้นเกือบตามไปแล้ว ภรรยาปู่เขาอยากไปมาก บอกคิดถึงซ้อนกเหมือนกัน แต่กว่าจะเสร็จธุระที่คริสตจักรก็ปาเข้าไปเกือบสี่โมงเย็น...เสียดายจริง ๆ นะ เนี่ย

    ตอบลบ
  7. ที่ปู่บอกว่าภรรยาอยากไปมาก เรายืนยันได้เลย เพราะเช้าวันจันทร์เพ็ญเค้าโทรมาซักถามอย่างสนุกสนานอยากรู้ว่าเมื่อวานเป็นไงบ้าง

    คราวหน้าโอกาสเหมาะเราไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน !!

    ตอบลบ