คราวนี้ก็ถึงเวลาของเอเชียบ้าง หลังจากหลงแถวยุโรปไปนาน เรื่องของเรื่องคือ เราไม่ได้พาลูกเที่ยวมาตั้งนานแล้ว เดี๋ยวลูกติดเรียน ติดสอบ ไม่สบาย เดี๋ยวแม่ไม่ว่าง เวลาไม่ได้ลงล็อคกันเลย ตัวแม่เลยตัดสินใจเที่ยวเองซะ แล้วบอกลูกว่าเรียนจบทำงานแล้วค่อยเที่ยวก็ยังไม่สาย... แต่เรารู้สึกผิดไงไม่รู้ ก็เลยตัดสินใจบอกลูกว่าเราไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเถอะ แล้วก็ไปชวนน้องสาวอีกคน
ตอนแรกว่าจะไปโตเกียวยอดนิยม โทรเช็คตั๋ว เขาว่าตั๋วเต็ม! ไม่น่าเชื่อเลย เลยเบนเข็มไปเกียวโต นารา โอซาก้าแทน
สรุปแผนการเดินทางคือ พอไปถึงสนามบินคันไซ ก็ต่อรถไปเกียวโตเลย อยู่ 4 คืน แล้วก็นั่งรถกลับมาโอซาก้า อยู่อีก 3 คืน แล้วกลับบ้าน ต่อมาก็วางแผนเที่ยวในแต่ละวันไว้ พอได้วันได้ที่เที่ยวก็ดูเส้นทางการเดินรถ ว่ามีรถอะไรผ่านจุดนั้นๆบ้าง แล้วก็หาที่พักที่ใกล้กับป้ายรถเมล์หรือรถไฟใต้ดิน เพื่อสะดวกในการลากกระเป๋าต่อรถไง พอวางแผนเสร็จ จองอะไรเรียบร้อย ก็พากันไปทำวีซ่า ข้อดีคือถ้าเป็นนักศึกษาไปขอวีซ่า แสดงเอกสารว่าเป็นนักศึกษาก็จะไม่ต้องเสียเงินค่าวิซ่า ส่วนเราใช้บัตร APEC เข้าญี่ปุ่นได้เลยไม่ต้องขอวีซ่า ดีจริงๆ
วันแรกเราไปถึงสนามบินคันไซก็เย็นแล้ว เราซื้อตั๋วรถไฟนั่งต่อไปเกียวโต (คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้น้อยมากถึงน้อยที่สุดและไม่ได้เลย) ไปถึงฝนกำลังตก เราเรียกแท็กซี่ไปโรงแรม Oaks Hotel Shijo ที่พักนี้ดูจากแผนที่แล้วคิดว่าไปไหนมาไหนสะดวก ห้องพักเราเลือกห้องใหญ่ 42 ตรม มีเตียง 4 เตียง ไม่มีอาหารเช้า เขาคิดหัวละ 5000 เยนต่อวัน อันนี้เราจองกับโรงแรม จ่ายเงินวัน check out (ตอนแรกหาที่พักแบบญี่ปุ่นแต่ไม่ไหว ราคาโหดอ่ะ นอนโรงแรมทั่วไปก็ได้)
พอเช็คอินเสร็จก็ถามหาร้านอาหารใกล้ๆที่อร่อยกับพนักงานที่เคาน์เตอร์โรงแรม (ด้วยความยากลำบาก เพราะเรื่องของภาษา) ตอนนั้นดึกแล้วกลัวไม่มีของกิน เขาให้แผนที่มาแต่อ่านอะไรไม่ออกเลย วงสถานที่ให้ เราก็เดินหาจนเจอ เป็นร้านราเมนเจ้าอร่อยของเขา เส้นของเขาใช้ได้เลยแหละ ชามโตมาก ชามเดียวอิ่มเลย กลับไปนอนเตรียมเที่ยวพรุ่งนี้
เกียวโตเป็นเมืองเก่า มีวัดหลายวัดที่น่าสนใจไปดู ใครๆก็ไปกันไง วันรุ่งขึ้น เราซื้อตั๋วรถบัส one day card ราคา 500 เยนต่อใบ ใช้ได้ทั้งวัน ขึ้นลงกี่เที่ยวก็ได้ (ปรกตินั่งเที่ยวนึงก็ 220 เยนอ่ะ) เราเริ่มไปวัดน้ำใส Kiyomizu-Dera Temple ต้องเสียค่าเข้าชม วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่มีวิหารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วิวทิวทัศน์โดยรอบสวยมาก ที่วัดนี้มีน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 สาย ดื่มแล้วโชคดี ร่ำรวย สุขภาพดี คนเข้าแถวไปรองน้ำกิน เราก็ทำด้วย
ที่นี่ยังมีซากุระให้ดูพอสมควร ต้นไม้ของเขามีสีเขียวสดสวยมาก เสียดายว่าช่วงนี้ซากุระเริ่มร่วงแล้ว แต่ก็ยังได้ถ่ายรูปกลับมาบ้าง อากาศดีค่อนข้างหนาว ด้านนอกวัดจะเป็นร้านรวงขายของต่างๆเรียงราย เรายังแวะชิมขนมฟรีไปตั้งหลายชิ้น อิอิ
จากที่นี่เราก็ไป วัดเงิน Ginkaku-ji Temple มีสถาปัตยกรรมสวยงามด้านหน้า ทางเดินค่อยๆขึ้นเขา ไปจุดชมวิวด้านบน แล้วก็เดินวกลงอีกด้านหนึ่ง ด้านนอกวัดก็มีร้านขายของสารพัด เดินผ่านออกมาทางขวาก็จะเป็น ทางเดินเลียบคลองที่เรียกว่าเส้นทางสายปรัชญา Path of Philosophy ทางเดินเงียบสงบ สวยงามมาก ต้นซากุระตลอดทาง เสียดายที่ร่วงไปพอสมควร เห็นใบสีชมพูตามทางที่เดินไปเลย
เราเดินไปเรื่อยๆระยะทางพอสมควร แล้วก็มาทะลุถนน นั่งรถไปศาลเจ้า Heian Shine ดูเสาแดงยักษ์กลางถนน และซากุระ (อีกตามเคย) แล้วก็นั่งรถเมล์กลับ กินอาหารเย็น แล้วก็หมดไปหนึ่งวัน
11 พฤษภาคม 2553
เยือนถิ่นซากุระตอนที่ 1
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
สมกับที่รอคอย
ตอบลบเฝ้ารออ่านตอนต่อไปอยู่
แฟนคลับ
ที่ญี่ปุ่นจะสวย,สะอาด,มีเสน่ห์ด้วยซากุระบานจริงๆ เลยนะ
ตอบลบมีใครรองน้ำศักดิ์สิทธิ์จากที่วัดใส่ขวดกลับไปฝากคนที่บ้านกินกันบ้างมั๊ยจ๊ะหุย ? คริคริ นิสัยคนไทย
ทริปต่อเนื่องเลยนะ
ตอบลบสงสัยต้องแนะนำให้หุยเขียนใน OKNATION
เหมือน"ประมุขหลอ"กระมัง แต่ระวังแฟนคลับตามนัวเนียนะจ๊ะ
ดีเจปู่จ๋า ขอเพลงประกอบด้วยดิ นะจิ๊ นะจ๊ะ
5555555
กับคนที่ไม่ชอบเดินทางอย่างปู่ ต้องมาสะดุดเข้าอย่างจังกับราเมนชามใหญ่...เห็นแล้วน้ำยายหยายยยยย!
ตอบลบ(เรื่องเพลงประกอบ...ปู่ไม่สามารถใส่เพลงเข้ามาในบทความของหุยได้ แต่ขอให้ดีลาอดใจรอดอีกนิด เดี๋ยวไม่นานนี้ จะมีอะไรน่าสนใจมานำเสนอให้พวกเราได้ฮือฮากัน...กำลังทำอยู่...
สำหรับแม่นางทิพที่หายหน้าหายตาไปพักนึง ชักคิดถึงแล้วนะ...ส่งเสียงบ้างดิ.)
โคมบังว่ะ หุย และ เพื่อน ๆ เห็นธรรมชาติที่สวยสดงดงาม
ตอบลบของญี่ปุ่น แถมพาเที่ยววัดเก่า ๆ ซึ่งมีมนต์ขลังด้วยแล้ว หุย
นี่น่าจะเบิกบานทั้งกายและใจ ทั้งยังเสมือนกับได้พาเพื่อน ๆ
ให้พลอยมีความสุขไปด้วย แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ ทำไมไม่
เห็นมี อุลตร้าแมน กาโม่ เคนโด้ หรือมดแดงเลยอ่ะ
ลืมขอบคุณหุย ที่พามาเที่ยวอีกที่หนึ่ง ปู่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ไหน ก็ได้อาศัยบทความของหุยนี่แหละ เปิดหูเปิดตา...อย่าเพิ่งหยุดเขียนนะจ๊ะ
ตอบลบท่านเตี๋ยว ลืมหน้ากากเสือ (SFX.)
ตอบลบดีเจปู่ แอบซุ่มเตรียมงานเซอร์ไพรส์เหล่าเผ่งอิ้วนี่เอง
แฟนไม่ขับ (เราขับเอง)
เราไม่ได้ลืมหรอก ดีลา แต่เห็นเขาบอกว่าปีนี้เป็นปีเสือดุ
ตอบลบแม้แต่คนเกิดปีเสือยังชงเลย ทำให้เราไม่เกล้าแม้แต่จะ
พูดหรือเขียนถึงคำว่า "เสือ"(เวอร์ไปนิดนึง)ส่วนที่ดีเจ
ปู่จะมีอะไรมาให้เพื่อนได้ฮือฮาในเร็วนี้ เราสงสัยจังว่าจะ
เป็นอะไรกันน้า ตื่นเต้น ตื่นเต้น (ไม่ใช่ว่าวันดีคืนดี ดีเจปู่
ใส่เสื้อยืด SIZE S และนำกางเกงในมาใส่ไว้ข้างนอก
และโพสท่าส่งเข้ามาใสบล็อค รับรองว่าฮือฮาแน่นอน
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เคยไปแล้วก็ยังอยากไปอีกนะหุย
ตอบลบประเทศเขาสมัยที่เราไปมันเป็นระเบียบมาก ถึงแม้ว่าเด็กๆ ญี่ปุ่นจะรับอารยธรรมตะวันตกเข้าไปเยอะมากๆ ก็เถอะ โดยรวมแล้วมันยังเป็นประเทศที่น่าไปมากๆ สำหรับเราเลยล่ะ
เกียวโต นารา และโอซาก้า เป็นเมืองเก่าและมีวัฒนธรรมเก่าๆ อยู่เยอะ
แต่เรายังไม่เคยไป สิบปีที่แล้วไปอยู่แค่โตเกียวกับนาโกย่าแค่เดือนครึ่งเท่านั้นเอง
ว่าแล้วก็ทำงานเก็บตังค์ต่อนิ :D