คราวนี้ขอเปลี่ยนแนวคนอื่นมาเล่าเรื่องเที่ยวบ้าง ความจริงไม่ได้ตั้งใจไปเที่ยวไหนตอนสิ้นปี พอดีน้องสาวไม่มีเพื่อนเที่ยวก็มาขอเกี่ยวก้อยเราไปเที่ยวกัน เราก็ตกลงนะ แต่ระบุสถานที่ไปว่าขอเป็นอียิปต์ น้องเราก็โอเค แล้วเขาก็เป็นคนจัดการหมดทุกอย่างติดต่อทัวร์อะไรต่ออะไร เพราะเรายุ่งมากช่วงนั้น ก็ปรากฎว่าอีก 2 อาทิตย์จะเดินทางกำลังจะไปขอวีซ่า บริษัททัวร์ก็โทรมายกเลิกเพราะไม่มีคนอื่นไปนอกจากเราสองคน...สงสัยจังคนอื่นไปไหนหมด...
ทีนี้ก็ต้องมาคิดกันใหม่ว่าจะไปไหน เราก็เลยบอก งั้นก็ไปบาหลี เพราะยังไม่เคยไป และไปเองได้ง่ายๆ น้องเราก็โอเคอีก จัดการทุกอย่างให้เพราะเรายุ่งมาก เรามารู้อีกทีก็คือ เขาไปติดต่อ agency จัดการตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และ day tour แบบเบ็ดเสร็จ เราก็ว่าเหมือนไปกับทัวร์แล้วนะ เราก็เลยยืดวันจากเดิม 4 วันเป็น 5 วัน จะได้มีเวลาหายใจพักผ่อน แล้วขอเปลี่ยนโรงแรมเป็นแบบดีกว่าที่เขาเสนอ ก็วุ่นวายพอสมควรจนได้ไปมานี่ล่ะ
สายการบินที่ใช้คราวนี้คือการบินไทย เนื่องจากมี promotion ราคาพิเศษ แต่สะสมไมล์ไม่ได้ (เสียดายเหมือนกัน) พอเราไปถึง ก็จะมีรถตู้มารับและคาดว่าคงมีคนอื่นด้วย และรถตู้คงแวะส่งตามทางไปโรงแรม ก็ปรากฎว่ารถมารับเราแค่สองคน แล้วก็พาไปเที่ยวต่อเลยอ่ะ รถตู้เขาน่าสนใจมาก บ้านเราด้านหลังคนขับเป็นแบบสามตอน ของเขาเป็นแบบสองตอน คันเล็กกว่า รู้สึกจะยี่ห้อซูซูกิ ราคาไม่แพงด้วย
เราก็เลยมีรถตู้ส่วนตัวพร้อมคนขับ 1 คน และคนนำเที่ยว 1 คน จุดเที่ยวของวันนี้คือไป Uluwatu วัดตั้งอยู่ที่ริมทะเล ก่อนไปถึงวัด มีการพาเราแวะที่โรงงานผลิตกาแฟ ระหว่างทาง ตามสไตล์ทัวร์เลยอ่ะ
พอไปถึงวัด วิวสวยใช้ได้เลย ก่อนเข้าไปถ้าใครนุ่งสั้นเขาให้ใส่โสร่งที่เขามีเตรียมไว้ให้ (จ่ายเงินเท่าไหร่ไม่รู้ เพราะเรามีไกด์ส่วนตัวดูแลอ่ะ) พอเข้าไปเขาก็บอกว่าให้ระวังลิงที่วัดนี้นะ มันชอบมาคว้าแว่นตา เรากับน้องเราก็เดินดูวิวไปถ่ายรูปไป ทะเลสวย ดูสถานที่ วัฒนธรรมเขา พอเราหันกลับอีกที น้องเราโดนลิงคว้าแว่นไปแล้ว มีเด็กแถวนั้นตามเอาคืนมาให้ แล้วก็มาขอเงิน กำลังเปิดกระเป๋าคำนวณเงินอยู่ดีๆ ลิงก็มาคว้าแว่นน้องเราอีกเป็นครั้งที่สอง เด็กก็ตามไปเอามาให้อีก แล้วขอเงินสำหรับสองครั้ง!! ผู้ใหญ่ที่คุมเด็กเป็นคนบอกราคาจะเอา USD5.- นะ เราว่ามันเลี้ยงลิงแบบตั้งใจให้ฉกของคนแน่เลย เราบอกว่าไม่มีหรอก 5 เหรียญ มีแค่เหรียญเดียวจะเอาไหม สุดท้ายเขาก็เอาไป เราสองคนหมดอารมณ์เดินต่อเลยแหละ
จุดที่สองที่ไปคือไป Garuda Wisnu Kencana มีรูปปั้นพระวิศนุขนาดใหญ่มาก และครุฑตัวใหญ่ที่ยังทำไม่เสร็จ เห็นว่าคงต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่าสิบปีอ่ะ ที่นี่เขาพาไปกินอาหารเย็น (ไม่อร่อยเท่าไหร่) และพาดู Kecak Dance การแสดงพื้นเมือง รวมหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ตอนจบมีตอนที่ผู้แสดงลุยไฟด้วยนะ ตื่นเต้นดี เสร็จแล้วก็พากลับโรงแรม check-in
ที่บาหลี สองข้างทางเขาเป็นวิวทางราบ ต้นไม้เยอะ บ้านที่พักอาศัยก็บ่งบอกถึง style ของเขา ที่บ้านเราชื่นชอบหนักหนา พากันเอาแบบมาสร้างเป็นบ้านพัก resort ราคาแพงกันเกลื่อน มองตามทางไม่มีอาคารแปลกแยกให้เห็นเท่าไหร่ ทั้งเมืองไปในทางเดียวกัน แบบมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ไกด์บอกว่าบาหลีมีกฏห้ามสร้างตึกสูงกว่าต้นมะพร้าวอ่ะ เมืองนี้ในสายตาเราค่อนข้างสงบเงียบ น่าอยู่นะ เขาว่าฝรั่งมาซื้อที่อยู่กันเยอะ
โรงแรมที่มาพักคราวนี้ คือ Grand Hyatt ที่หาด Nusa Dua (เขาว่าหาดนี้สวย และหาดที่โรงแรมนี้เรียบยาว สามารถเดินลงทะเลไปได้ไกลมาก)โรงแรมใหญ่ ดูดี แต่ห้องที่เราพักค่อนข้างไกลจาก lobby ตอนไปถึงก็มืดแล้ว พนักงานพาไปส่งที่ห้องเราก็จำทางไม่ได้ ห้องพักกว้างขวางพอควร วิวนอกห้องเป็นสวนน้ำ สวยงามใช้ได้ กะว่าจะสำรวจตอนเช้าอีกที
เราใช้เวลาตอนนี้นั่งดูพวก brochure ที่เอามาจากสนามบิน พวก day tour เราสามารถมาหาซื้อที่นี่ได้ สนนราคาก็ US$35 ต่อคนถ้าไปเป็นกลุ่ม และ US$40 ถ้าเป็นแบบส่วนตัวสองคนขึ้นไป ส่วนของเราก็เป็นแบบเที่ยวส่วนตัว และต้องตื่นเช้าทำตัวตามโปรแกรมด้วยอ่ะ เราไม่ชอบมากับทัวร์เพราะเรื่องนี้แหละ
รุ่งขึ้น ไกด์นัดมารับตอน 8 โมงครึ่ง เราเดินหลงในโรงแรมหาห้องอาหารสำหรับมื้อเช้า และ lobby ยังไม่มีเวลาเดินดูหาดเลย โปรแกรมวันนี้จะมีไปดู Barong Dance การแสดงพื้นเมืองเกี่ยวกับความดีความชั่ว ไปภูเขาไฟ Kintamani ไป Ubud และ หาด Jimbaran
และก็เช่นเดิม พอไปดู Barong Dance แล้วไกด์ก็พาแวะที่ ร้านขายผ้าบาติก ต่อด้วยชุมชนขายภาพเขียน ต่อด้วยชุมชนร้านเครื่องทองเครื่องเงิน เราก็บอกให้เลยไปเลยไม่สนใจ ต่อด้วยชุมชนแกะสลักไม้ เราก็ให้เลยไปได้เหมือนกัน เพราะไม่คิดจะซื้อแบกกลับบ้าน จนได้ไปถึงที่ที่จะดูวิวภูเขาไฟ ขอบอกว่าก่อนมา เราเข้าใจว่าเราจะได้สัมผัส ได้เหยียบย่ำถิ่นภูเขาไฟ ได้ดูวิว แต่ความจริงคือ เขาพาไปที่ร้านอาหารให้ทานอาหารกลางวัน พร้อมกับดูวิวภูเขาไฟจากที่นั่งเท่านั้นจริงๆ...เฮ้อ วันนั้นหมอกเยอะมาก วิวไม่สวยเท่าไหร่เลย...เฮ้อ
ขากลับมาที่ Ubud ก็ดูโน่นนี่ แวะตลาดขายของที่เห็นชาวเว็บพูดถึงหนักหนา เราไม่ค่อยสนใจเพราะเราไม่ใช่ขาช็อปของในตลาด เวลาซื้อของต้องต่อแบบมากกว่า 60% เขาไม่ให้ เดินหนี เดี๋ยวก็ได้ เหมือนบ้านเราเลย
แล้วเราก็ไปถึงหาด Jimbaran เราทึ่งกับหาดนี้ตรงที่ หาดก็ดูสวย ร้านอาหารสามารถเอาโต๊ะไปตั้งเรียงบนหาดส่วนใครส่วนมัน คนไปนั่งกินข้าวก็เยอะ กินอาหารทะเลแกล้มวิวพระอาทิตย์ตก ลมทะเลก็ดี เสียงคลื่นซัดก็ดี บรรยากาศไม่เลวเลยจริงๆ ที่ชอบอีกอย่างคือพื้นทรายชายหาดไม่สกปรกจากขยะของกินน่ะ ชายหาดบ้านเราตรงที่คนเยอะๆก็จะมีแต่เตียงกับร่มเต็มไปหมด ไม่น่านั่งแบบที่นี่เลย
วันรุ่งขึ้น ไกด์จะมารับตอน 11 โมง เราดีใจมากตอนเช้าได้พักผ่อนเดินเล่นที่หาดของโรงแรมแล้ว หาดทรายเขาละเอียดสวย ของบ้านเราก็สวย พูดตามจริง ถ้าจะเที่ยวชายทะเลหาดต่างๆ ที่บ้านเราก็มีสวยๆเยอะแยะ ไม่ต้องมาถึงที่นี่หรอก (นี่เรามาดูอย่างอื่นด้วยไง)
โปรแกรมของวันนี้ มีไป Mengwi - Taman Ayun - Royal family temple เป็นสถานที่กว้างขวางมาก เข้าไปไม่ได้ ได้แต่เดินดูรอบๆ ถ่ายรูปเอา ไกด์ว่าชาวบาหลีจะนิยมปลูกบ้านอยู่ด้วยกัน ในที่ดิน 1 ผืน มีซุ้มทางเข้า ภายในมีบ้านชั้นเดียวสองสามหลัง ญาติพี่น้องอยู่ด้วยกัน และมี temple ของบ้านในอาณาเขตบ้านด้วย (นึกถึงบ้านทรงไทยที่มี 3-4 เรือน และมีศาลพระภูมิในอาณาเขตบ้าน) ตลอดทางที่ผ่านจะเห็นแต่ลักษณะบ้านอยู่อาศัยแบบนี้
จากนั้นไป Tanah Lot holy temple วัดนี้ตั้งอยู่ริมทะเลเหมือนกัน เข้าไปไม่ได้ ได้แต่เดินดูรอบๆ วิวรอบๆสวย คลื่นซัดเข้าฝั่งน่าดูมาก เป็นอีกจุดหนึ่งที่คนมาดูพระอาทิตย์ตกกัน
วันที่เหลือเราไม่ได้ไปไหนแล้ว อยู่เล่นน้ำ พักผ่อนริมหาดที่โรงแรม shopping นิดหน่อยที่ร้านใกล้โรงแรม พอถึงวันกลับ รถตู้ก็มารับไปส่งที่สนามบิน สรุปว่ามาครั้งนี้ ได้มาเที่ยวดูวัฒนธรรมพื้นเมืองตลอดจนสถานที่ต่างๆและพักผ่อน ก็ไม่เลวนะ มาเที่ยวเองไม่ลำบากเลย
4 มกราคม 2553
บาหลี ก็ไม่เลวนะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ชอบภาพที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าจัง ถ่ายเองหรือ!!!
ตอบลบเขียนมาเล่าบ่อยๆนะ เวลาไปไหนกลับมา
เราชอบถ่ายรูปวิว พยายามถ่ายให้ดูสวยๆน่ะ เที่ยวหน้าไป morocco รอแล้วกันนะ
ตอบลบแล้วที่นพไปฝึกสำเร็จวิทยายุทธที่เมืองจีนกลับมา ไม่เห็นเล่าเลยล่ะ มีคัมภีร์อะไรมาฝากเพื่อนๆบ้าง
ตอบลบหายใจมาเต็มปอดเลยนะ อากาศและวิวดีๆอย่างนี้
ตอบลบวันหลังเอา ทรายละเอียดๆ +น้ำทะเลมาฝาก เราบ้างนะ
หุยเขียนเล่าเรื่องได้สนุกดี แถมมีรูปให้ดูอีกเยอะแยะ เหมือนได้ตามไปเที่ยวด้วยเลย.
ตอบลบจะคอยอ่านเรื่องต่อ ๆ ไปนะ:)
เห้นด้วยกะปู่ว่าหุยเขียนเรื่องหนุกดี หลออีกคน นี่เจ้าหล่อนหายไปไหนเนี่ย ออกมาโชว์ตัวหน่อยเร้ว เพื่อนบ่นถึง ไม่จามบ้างหรือ วันหลังถ่ายรูปคนปนรูปวิว กิ้มจะได้รู้ว่าไปจริง ชอบดูรูปเพื่อนมากกว่ารูปวิวอะเรา
ตอบลบโห นพไปเที่ยวตึ่วซัวมาอุบเราเชียวนะ เมื่อไหร่จะมาถึงเมืองที่เราอยู่กันบ้างเนี่ย จะได้ต้อนรับขับสู้อย่างดี
หุหุ ไม่รู้เหมือนกันว่าคลาดเอนทรี่นี้ไปตอนไหน เห็นตอบกันในเมล์อยู่เยอะ ก็เลยนึกว่าหุยมาเล่าในเมล์อ่ะ ..ช่วงนี้แมวเค็มปี๋แล้วอ่ะ เพราะถูกดองข้ามปี คิคิ
ตอบลบจริงๆ เราชอบรูปพระอาทิตย์ตกที่สีแจ่มมากๆ แต่ใน FB ดันไป comment ผิดรูป เลยปล่อยเลยตามเลย 55++ (ท่าจะบ้านิ)
นี่ถ้าหุยไปหลายวัน มาเล่าเป็นตอนๆ ก็ได้นะ เพื่อนๆ จะได้เห็นรูปและเรื่องแบบจุใจหน่อย ..นี่เรายังไม่รู้เลยว่าทริปถัดไปจะไปถึงรึเปล่า ตอนนี้ตั๋วหายากชะมัด ..ถ้าหาไม่ได้ ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปอยู่แห่งหนตำบลไหน เฮ้อ!!! แอบนึกอยู่เหมือนกันว่าหาตั๋วไปหาอาทิพจะง่ายกว่ารึเปล่าหว่า แต่..ปัญหาคือ ไปแล้วจะเที่ยวไหน เที่ยวยังไง ไม่รู้อารายอยู่ในหัวเลยเท็กซัสหรือเมกาเนี่ย หุหุ
เรื่องราวไปเฉิงตู นพเขียนจบตอน1แล้ว แต่ลงบล็อกสพช.14 ไม่เป็น
ตอบลบว่าจะส่งให้หุยแล้ว รบกวนหุยลงบล็อกให้ แต่เกรงใจ
มีโอกาสจะชวนท่านประมุขไปเยือนเท็กซัสบ้างนะทิพ
มาไม่กลัว กลัวไม่มา ความจริงเมกามีที่ไห้เที่ยวเยอะมากเลยนะ เมืองเราถือว่าเป็นเมืองแวะดีกว่า แต่จะเที่ยวทางซีกตะวันออกหรือตกน่าเที่ยวทั้งนั้นเลย
ตอบลบขับรถเที่ยวราคาไม่แพงและเที่ยวได้ทั่วเลยหละ
เราว่าเราตอบในเม้นแล้วมันไม่รู้หายไปไหน
ยิ่งสำหรับคอดื่มแล้วละก้อไม่ต้องห่วงเลย ที่บ้านเก็บไวน์ไว้เยอะมาก กินสามวันก้อไม่หมด เดี๊ยวจะมีคนหมั่นไส้ซะแล้วสิเรา
เรื่องราวไปเฉิงตูของจอมยุทธ นพ
ตอบลบถ้าแม่นางหุยไม่ว่าง ก็ส่งมาทางพ่อคุณปู่ก้ได้นะจ๊ะ...
อยากอ่านนนนนน!
ใครบอกทิพล่ะ ว่าไวน์มีไว้เพื่อเก็บ
ตอบลบไวน์ดีหรือไม่นั้น ล้วนต้องผ่านลมหายใจก่อน จากนั้นต้องละเลียดอยู่ในช่องปากสักพัก แล้วค่อยๆไหลลงผ่านลำคอ จนสัมผัสได้ว่าไออุ่นๆแผ่ซ่านไปทั่วกระเพาะแล้ว
เอ๊ะ!ยังไม่รู้รสชาดเลย ต้องขอดื่มด่ำต่ออีกสักหน่อย เรื่อยๆจนหมดขวดนั่นน่ะถึงจะรู้รสชาด
วันเสาร์(9 ม.ค.)ที่ผ่านมา ไปงานเลี้ยงปีใหม่บ้านเพื่อน เพื่อนเลี้ยง BIN 2 กินคนเดียวไป 1 ขวด ยังไม่เห็นรู้เรื่องเลย ที่ไม่รู้เรื่องคือ ไม่รู้กลับบ้านยังไง (มีคนขับรถให้น่ะ)
เขียนถึงไวน์แล้ว ให้รู้สึกคนึงหา เอ้า!!! เพื่อนๆ ยกแก้ว...ดื่ม
อ๋อ ความจริงไม่ได้ซื้อไว้เก็บหรอก แต่ว่าด้วยความที่บ้านเราเยอะมาก เฉพาะในตู้แช่ก้อประมาณเกือบสองร้อยขวดแล้วยังซื้อมาอีกเรื่อยๆ ดื่มไปซื้อไป
ตอบลบนอกจากไวน์แล้ว ยังมีแชมเปญอีกนะ ดอมที่หมาเสดถี บ้านเราเค้าดื่มกันไง
ที่นี่มีหลากหลายยี่ห้อมากๆ แฟนเราเค้าคอไวน์เลยหละ
ถ้ามาจริงๆควรวางแผนการเดินทางแต่เนิ่นๆ จะดีมาก เฮ้อ สงสัยคงต้องรอเก้อสิเรา
นพ ถ้าจะไปหานู๋ทิพ จะช่วยวางแผนให้นะ 555+ บินสายการบิน china airlines ก็ได้ จากกรุงเทพฯ แวะเปลี่ยนเครื่องที่ไทเป แล้วไปลงที่ honolulu, hawii. แล้วเลือกเอาว่าจะต่อเครื่องไปเท็กซัสเลย หรืออยู่ honolulu วันสองวันค่อยเข้าเท็กซัส พอไปถึงก็เข้าโปรแกรมนู๋ทิพไง ถ้าคิดว่าไหนๆไปแล้ว ก็่อาจแวะเที่ยว las vegas / grand canyon แล้วค่อยกลับมา hawaii อยู่ต่ออีกหน่อยก็กลับบ้าน แผนนี้เป็นไง
ตอบลบหรือเอาแผนสองคือ กรุงเทพฯ เปลี่ยนเครื่องไทเป ไปลงที่ซานฟรานซิสโก พักไม่พักแล้วแต่ แล้วต่อเครื่องไปเท็กซัส แล้วไปลาสเวกัส ค่อยกลับมาซานฟรานซิสโก แล้วกลับบ้าน ไม่เลวนะ จะไปเมื่อไหร่เหรอ
แผนหนึ่งหรือแผนสองก็คงไม่ยั่วยวนใจเท่ากับ แผนสามวันสามคืน กับไวน์ที่ดื่มไม่รู้หมด
ตอบลบยิ่งถ้ามีการปะทะชนแก้วกันระหว่าง หนึ่งประมุขกับหนึ่งจอมยุทธ ด้วยไวน์ฝรั่งรสดี...อ่าาา..ช่างเร้าใจอะไรอย่างงี้?
แผน 1 ก็โอนะ แผน 2 ก็ดีน่ะ
ตอบลบหุยเลือกไปแผนไหน นพขอไปแผนนั้นละกัน
กำหนดวัน/เวลาเลย นะหุย โปรดอย่ารอช้า จะได้รีบขอวีซ่า (วีซ่า U.S.A.ไม่น่าจะขอยากนะ)
ขอบคุณที่หุยจะไปด้วยกัน
เฮ้ มัดมือชกได้ไวมากนะพี่ท่าน ทั้งสองแผนดีทั้งนั้นเลย แบบว่าไปมาแล้วไง ตอนนี้ยังไม่มีแผนไปเมกาอ่ะ มีแต่ไปทำงานที่สวิสเดือนมีนานี้ ถ้าหิมะตกจะส่งรูปให้ดู แต่อาจ post ใน FB นะ
ตอบลบ